โบว์แสดงความอาลัย

ฮอนด้า พาสื่อมวลชนทดสอบและสัมผัส Honda CR-V e:HEV ใหม่ ขับสนุกเร้าใจ ลุยได้ทุกเส้นทาง และประหยัดน้ำมัน กับขุมพลัง e:HEV – The EXCITING Hybrid ขับจริงและใช้งานจริงบนเส้นทางน่าน-สะปัน กว่า 110 กม.

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะของ Honda CR-V e:HEV ใหม่ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ที่มาพร้อมการปรับไลน์อัปเป็นฟูลไฮบริด e:HEV ในทุกรุ่นย่อย ให้ลูกค้าได้สัมผัส SUV ไฮบริดที่ครบครันคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น เริ่มต้นเพียง 1,399,000 บาทสัมผัสประสบการณ์ขับสนุก ประหยัดน้ำมัน ด้วยขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV – The EXCITING Hybrid พร้อมลุยทุกสภาพถนนอย่างมั่นใจด้วย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย พร้อมฟีเจอร์ใหม่และอัปเกรดฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติมในหลากหลายรุ่น อีกทั้งเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ e:HEV HuNTกับดีไซน์อัปลุคแต่งรอบคัน และรุ่น e:HEV RS ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างลงตัวรวมถึงเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่และความปลอดภัยที่ครบครัน โดยการทดสอบครั้งนี้จัดขึ้นบนเส้นทางจากอำเภอเมืองน่าน สู่หมู่บ้านสะปัน พร้อมตะลุยเส้นทาง Off-road พิสูจน์สมรรถนะเต็มพิกัดขึ้นสู่ลานกางเต็นท์บ้านห้วยหมี รวมระยะทางกว่า 110 กิโลเมตร

 

Honda CR-V e:HEV ใหม่มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ได้แก่

  • ใหม่!รุ่น e:HEV E ราคา 1,399,000 บาท
  • รุ่น e:HEV ES ราคา1,549,000 บาท
  • ใหม่!รุ่น e:HEV HuNT ราคา1,599,000 บาท
  • ใหม่! รุ่น e:HEV RS ราคา1,659,000 บาท (รุ่นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ)
  • รุ่น e:HEV RS 4WD ราคา1,729,000 บาท (รุ่นระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ – Real Time™ AWD)

 

โดยสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหม ด 6 สี พร้อมภายในโทนสีดำ ได้แก่

  • สีใหม่! สีเทาเออร์เบิน (มุก) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD)
  • สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) (ทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่น e:HEV HuNT)
  • สีขาวแพลทินัม (มุก) (ทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่น e:HEV HuNT)
  • สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) (ทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่น e:HEV HuNT)
  • สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
  • สีดำคริสตัล (มุก)

 

 

โดยก่อนเริ่มการทดสอบ สื่อมวลชนได้ร่วมสัมผัสกับดีไซน์ของ Honda CR-V e:HEV ใหม่ ที่มาพร้อมการปรับลุคทั้งภายนอกและภายใน ด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนเฉพาะรุ่นอย่างมีสไตล์

 

ดีไซน์รุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD

  • เปลี่ยน!กันชนหน้าและหลัง สีดำแบบสปอร์ต
  • เปลี่ยน!ชายกันกระแทกด้านข้าง สีดำแบบสปอร์ต
  • เปลี่ยน!มือจับประตูด้านนอกสีดำแบบสปอร์ต
  • เปลี่ยน!ชุดตกแต่งภายในสีเงินอะลูมิเนียมรมดำ ลาย Hairline และสีดำแบบสปอร์ต
  • ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมใหม่!
    โลโก้ RS บนเบาะนั่งคู่หน้า
  • เปลี่ยน!ก้านพวงมาลัยสีดำแบบสปอร์ต

ดีไซน์รุ่น e:HEV ES

  • เปลี่ยน!ชุดตกแต่งภายในสีเงินอะลูมิเนียม ลาย Hairline และสีดำแบบสปอร์ต

ดีไซน์รุ่น e:HEV HuNTที่มาพร้อมชุดแต่ง HuNT แพ็กเกจรอบคัน ได้แก่

  • ชุดเสริมหลังคาคู่
  • บันไดข้าง
  • คิ้วตกแต่งกระจังหน้าสี Glossy Copper
  • คิ้วตกแต่งไฟตัดหมอกสี Glossy Copper
  • แผงใต้กันชนหน้า
  • คิ้วตกแต่งซุ้มล้อหน้า-หลัง

ระหว่างการทดสอบบนเส้นทางจากอำเภอเมืองน่านสู่หมู่บ้านสะปัน อำเภอบ่อเกลือ ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางภูเขาสูงชันและโค้งคดเคี้ยว สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะของขุมพลังฟูลไฮบริด Honda e:HEV – THE EXCITING HYBRID ที่มอบความแรง เร้าใจ และความสมูทในทุกอัตราเร่ง ด้วยการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจในทุกช่วงออกตัวด้วยแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0-2,000 รอบ/นาที พร้อมอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 19.6 กม./ลิตร (รุ่น e:HEV RS) และ 18.5 กม./ลิตร (รุ่น e:HEV RS 4WD) ตามมาตรฐานการทดสอบ UN R101 ในห้องปฏิบัติการ ผ่านการรับรองมาตรฐานมลพิษระดับ Euro 6

ก่อนมุ่งหน้าสู่ไฮไลต์จุดหมายปลายทาง ณ ลานกางเต็นท์บ้านห้วยหมี บนเส้นทางขรุขระแบบ Off-road ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ท่ามกลางทิวเขาสูงใหญ่ที่งดงามของจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขึ้นชื่อสำหรับรถสายลุยหรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ Honda CR-V e:HEV ใหม่ ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ Real Time™ AWD ก็สามารถพาลุยขึ้นไปได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ โดยตลอดเส้นทางอันท้าทาย CR-V e:HEV ใหม่ มอบสมรรถนะที่ตอบสนองดั่งใจในทุกช่วงการขับขี่ พร้อมความสนุกในทุกเส้นทาง โดยมาพร้อมสวิตช์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่ปรับได้ 4 รูปแบบ ในทุกรุ่นย่อย ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบ Individual โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต โหมดการขับขี่แบบปกติ และโหมดการขับขี่แบบประหยัด

 

 

พร้อมสัมผัสฟีเจอร์ใหม่ และฟังก์ชันการใช้งานที่อัปเกรดเพื่อเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ

  • ใหม่!เบาะนั่งคู่หน้าแบบระบายอากาศ ตั้งแต่รุ่น e:HEV ES
  • ใหม่!แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ในทุกรุ่นย่อย
  • เพิ่ม!ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ตั้งแต่รุ่น e:HEV ES
  • เพิ่ม! ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT พร้อมเทคโนโลยี Digital Key เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
  • เพิ่ม!ขนาดมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT เป็นขนาด10.2 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android AutoTM แบบไร้สาย พร้อมรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
  • ระบบฟอกอากาศในห้องโดยสาร Plasmacluster ตั้งแต่รุ่น e:HEV ES
  • ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) มอบความผ่อนคลายและสุนทรีย์ในทุกการเดินทาง
  • ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น – ลงรถ (Memory Seat with Easy Entry / Exit)
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
  • ช่องเชื่อมต่อ USBType-C4 ตำแหน่ง (ด้านหน้า 2 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง)

 

 

อีกทั้งได้ทดสอบการใช้งานและความแม่นยำของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING บนเส้นทางการใช้งานจริง โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ได้แก่

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure MitigationSystem with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (รุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้า
    ที่ความเร็วต่ำ
    (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

อีกทั้งเทคโนโลยีการขับขี่ระดับพรีเมียม* อื่น ๆ อาทิ

  • ใหม่!ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information - BSI) ในทุกรุ่นย่อย
  • ใหม่!ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor - CTM) ในทุกรุ่นย่อย
  • สวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่ปรับได้ 4 รูปแบบ ในทุกรุ่นย่อย ได้แก่ ใหม่! โหมดการขับขี่แบบ Individual โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต โหมดการขับขี่แบบปกติ และโหมดการขับขี่แบบประหยัด
  • เพิ่ม!เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
  • เพิ่ม!ขนาดมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT เป็นขนาด10.2 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
  • ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) (รุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD)
  • ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) (รุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD)
  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง(Multi-view Camera System: MVCS) ตั้งแต่รุ่น e:HEV ES

ข้อเสนอพิเศษ สำหรับ Honda CR-V e:HEV ใหม่ เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 – 31 ธันวาคม 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 (รับรถภายใน 31 มกราคม 2569 สำหรับรุ่น e:HEV HuNT) มาพร้อมทางเลือก

  1. ดอกเบี้ย 0.99%** พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี**
  2. ดอกเบี้ย 1.99%** พร้อมแพ็กเกจ Honda Exclusive Care 5 ปี** มูลค่าสูงสุด 204,000 บาท**

ลูกค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองขับ Honda CR-V e:HEV ใหม่ได้ทาง www.honda.co.th/testdrive หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายและโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือผ่าน LINE Official Account: @honda-thailand หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777อัปเดตทุกข่าวสาร ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมล่าสุด เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวได้ที่

  • เว็บไซต์:  www.honda.co.th
  • Facebook Official Account: Honda Thailand
  • LINE Official Account: @honda-thailand

 

หมายเหตุ:

* อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

  • สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 14,000 บาท
  • สีเทาเออร์เบิน (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
Visitors: 2,051,560