ค่ายตรีศูลเปิดตัว Grecale Folgore รถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรก และ GranTurismo รถยนต์ระดับไอคอนรุ่นใหม่ล่าสุดที่งาน Shanghai Auto Show 2023
มาเซราติ เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ภายในงาน Shanghai Auto Show 2023 ที่จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้แบรนด์ได้นำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุด ถือเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์สำหรับมาเซราติ แบรนด์รถยนต์หรูสัญชาติอิตาลีรายแรกที่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100%
หากพูดถึงศูนย์กลางด้านนวัตกรรมทางยานยนต์ที่มีความตื่นตัวและเติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังมีความล้ำหน้าทางความคิด รวมถึงความน่าสนใจของตลาดลักซ์ชัวรีที่มาอย่างยาวนาน ประเทศจีนคือหนึ่งในศูนย์กลางดังกล่าว มาเซราติ จึงตัดสินใจเลือกประเทศจีนให้เป็นสถานที่สำหรับเปิดตัวรถยนต์ มาเซราติ แบบเวิลด์พรีเมียร์พร้อมกันทั่วโลกในรุ่น Grecale Folgore, GranTurismo และอีกหนึ่งไฮไลท์กับ GranTurismo Folgore รถยนต์คูเป้ทรงพลังที่มีดีไซน์ร่วมสมัย และมาพร้อมทั้งขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปและแบบพลังงานไฟฟ้า 100%
Folgore คือ ชื่อรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายตรีศูลที่นำเสนอนวัตกรรม ความหรูหรา ความสง่างาม และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ มาเซราติ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สำหรับงาน Shanghai Auto Show 2023 ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของ มาเซราติ ในการบุกตลาดเอเชีย เพื่อตอกย้ำการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้แนวคิด “ความหรูหราและสมรรถนะแบบอิตาเลียน”
ในอนาคต พลังงานไฟฟ้าจะเริ่มมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์มากยิ่งขึ้น และเป็นหัวใจหลักของ มาเซราติ กับการวางแผนกลยุทธ์ในอนาคต ด้วยความมุ่งมั่นที่จะขยายสายการผลิตรถยนต์โมเดลที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มีรูปแบบพลังงานทางเลือก ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ภายในปี 2025 และมุ่งมั่นที่จะผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายในปี 2030 ซึ่งแผนดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่ผสานอยู่ในดีเอ็นเอที่ใช้ขับเคลื่อนแบรนด์จากอดีตสู่อนาคต ความสำเร็จเกิดขึ้นด้วยคาแรกเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบอิตาเลียนดีไซน์ มีความโดดเด่น เปี่ยมด้วยคุณภาพ และมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ผสานความทันสมัยของนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต
Davide Grasso ผู้บริหารสูงสุดของมาเซราติ กล่าวว่า “นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญของ มาเซราติ การที่เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน Shanghai Auto Show ในประเทศจีน และได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานระดับโลกอย่าง Milan Design Week ในประเทศอิตาลี นับเป็นการฉลองการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของแบรนด์ พร้อมกับการเปิดตัว Folgore กลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โดยผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราได้มาร่วมจัดแสดงรถยนต์ในเมืองเซี่ยงไฮ้ สำหรับงาน Shanghai Auto Show นอกจากจะเป็นงานจัดแสดงรถยนต์ระดับนานาชาติ ยังเป็นเวทีระดับโลกสำหรับการนำเสนอนวัตกรรมที่เหมาะอย่างยิ่งต่อการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ มาเซราติ”
_B.Loire_Maserati_COO_(R)_M_._Bordiga_Head_of_Maserati_China_1280x853_.jpg)
การเปิดตัวแบบเวิลด์พรีเมียร์พร้อมกันทั่วโลก ของรถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้า รุ่น Grecale Folgore คันแรกของ มาเซราติ
Grecale Folgore เป็นรถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้าคันแรกในประวัติศาสตร์ของ มาเซราติ ที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับแบบ “Everyday Exceptional” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ผสานสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของมาเซราติ และ Grecale ถือว่าเป็นยานยนต์อีกหนึ่งรุ่นในสายการผลิตของ มาเซราติ ที่มีขุมพลังทางเลือกให้ลูกค้าครบทุกรูปแบบ ทั้งเครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน แบบไฮบริด และ พลังงานไฟฟ้า 100%
Grecale รุ่นที่ใช้ระบบไฟฟ้า 100% จะถูกเรียกภายใต้ชื่อ Folgore นิยามใหม่ของขุมพลังแบบไฟฟ้า 100% ของ มาเซราติ เพื่อก้าวสู่เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต
มาเซราติ เกรคาเล่ ที่ผสานระหว่างความสปอร์ต และความสง่างาม พร้อมแนวคิดด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ความอเนกประสงค์ ความหรูหรา และสมรรถนะเข้าไว้ด้วยกัน โดยการเปิดตัว Folgore ที่ผ่านมา มาเซราติ ได้แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และในขณะเดียวกันรถ SUV ของ มาเซราติ ยังมีดีไซน์ที่กว้างขวางและยังมาพร้อมกับความสะดวกสบายในด้านต่างๆ
มาเซราติ มีแผนงานในการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ขุมพลังไฟฟ้าให้แก่ยานยนต์รุ่นอื่นๆ ของ มาเซราติ ในอนาคต และ Grecale Folgore ได้เปิดตัวออกสู่ตลาด 1 ปี หลังจาก Grecale รุ่นไฮบริดและเบนซินถูกเผยโฉม โดย Grecale Folgore ได้ถูกออกแบบ คิดค้น พัฒนา และผลิตขึ้นในประเทศอิตาลีทั้งหมด รวมไปถึงการติดตั้งแบตเตอรี่ความจุขนาด 105 กิโลวัตต์-ชั่วโมง 400 โวลต์
รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ มาเซราติ นี้ มีแรงบิดสูงสุดที่ 820 นิวตันเมตร มีแรงม้าสูงสุดที่ 410 กิโลวัตต์ และสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง*
* ค่าเครื่องยนต์ถูกประมาณการณ์ตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป
อัตลักษณ์ของ มาเซราติ Grecale Folgore
สีน้ำตาล Rame Folgore เป็นสีพิเศษเฉพาะของรุ่น Grecale Folgore ที่มีเอกลักษณ์ความโดดเด่น และยังสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์ เพื่อมุ่งสู่แนวคิดยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
สีน้ำตาล Rame Folgore เป็นสีภายนอกของรถยนต์รุ่น Grecale Folgore ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแสงและเฉดสี ที่เผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์กันระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสภาพแวดล้อม สีดังกล่าวยังได้รับแรงบันดาลมาจากสถาปัตยกรรมร่วมสมัยของพิพิธภัณฑ์ Guggenheim ที่เมืองบิลเบา ที่ใช้สีโทนอบอุ่นอย่างสีน้ำตาลทองแดงที่จะเปร่งประกายขึ้นเมื่อกระทบกับแสงพระอาทิตย์
ทั้งนี้ มาเซราติ ยังได้ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิต ด้วยการนำวัสดุที่เหลือใช้พร้อมด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ อย่างเช่น เส้นใย ECONYL® ซึ่งเป็นเส้นใยที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ เส้นใยชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ผ่านการนำเศษด้ายไนลอนจากสถานที่ต่างๆ อาทิ อวนจับปลาในท้องทะเล ตาข่ายสำหรับเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เศษผ้าจากโรงสี หรือเศษพรมที่เหลือใช้ โดยการนำเศษด้ายทั้งหมดมาดัดแปลงให้กลายเป็นเส้นด้ายไนลอนที่มีคุณภาพบริสุทธิ์เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและอุตสาหกรรมตกแต่งภายใน เส้นใย ECONYL® นี้มีความพิเศษเฉพาะตัว และมีคุณสมบัติทึบแสง กระบวนการผลิตเส้นใย ECONYL® จึงมีความคล้ายคลึงกับการทำบอดี้สูทที่นำเทคโนโลยีเลเซอร์มาผสมผสานในกระบวนการผลิต ส่งผลให้วัสดุที่มีส่วนผสมของเส้นใย ECONYL® มีโครงสร้างแบบพาราเมตริกดีไซน์ โดดเด่น และมีชีวิตชีวา เสมือนภาพถ่ายของนักบัลเล่ต์ในตำนาน และการเคลื่อนไหวอันไม่มีที่สิ้นสุดที่รู้จักในนาม “Controlled Performance”
โดยดีไซน์ด้านหน้า Grecale Folgore ยังคงคอนเซปต์ “Unique by Design” ที่กระจังหน้าถูกออกแบบมาโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น Trofeo เพื่อระบายความร้อนตามมาตรฐานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ดีไซน์ภายนอกของ Grecale Folgore มีความร่วมสมัย โดดเด่นและสะดุดทุกสายตา ตามหลักอากาศพลศาสตร์ รวมถึงสปอยเลอร์กันชนท้ายรถยนต์ดีไซน์ใหม่ เพื่อช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd) ตามหลักอากาศพลศาสตร์
Grecale Folgore มาพร้อมกับล้อแม็กซ์ ขนาด 19 นิ้ว**, 20 นิ้ว หรือ 21 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละประเทศ) ที่ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ และยังได้รับแรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์ตรีศูล ตกแต่งกระจังหน้าเพิ่มด้วยสีดำเงาที่บริเวณณชายกันชนหน้า มือจับประตู กรอบโคมไฟหน้า และสเกิร์ตด้านข้าง พิเศษยิ่งขึ้นด้วยโลโก้และคาลิเปอร์เบรกตกแต่งพิเศษด้วยสีน้ำตาลทองแดง พร้อมช่องระบายอากาศด้านข้างแบบเรืองแสงช่วยเพิ่มความหรูหราที่เหนือระดับไปอีกขั้น
**ข้อมูลสำหรับสหภาพยุโรปเท่านั้น
Grecale Folgore มีดีไซน์ภายในที่โดดเด่นด้วยโลโก้ Folgore ที่แดชบอร์ด แบบ 3D ชุดไฟ Ambient Light ภายในห้องโดยสารช่วยเพิ่มความหรูหรา เบาะโดยสารแบบทูโทนสีดำ-สีครีมหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ECONYL® (ผสมผสานนวัตกรรมและเทคนิคการใช้เลเซอร์) โดยชุดเบาะโดยสารคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าแบบ 14 ทิศทาง มาพร้อมระบบเป่าลมร้อน/เย็น และวัสดุบุนุ่มคุณภาพเยี่ยมรอบคัน อาทิ ผ้าบุหลังคา รวมถึงชุดพรมที่ผลิตขึ้นจากเส้นใยพิเศษช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้แก่ Grecale Folgore มากยิ่งขึ้น
Grecale Folgore ถูกยกระดับด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่พร้อมถ่ายทอดทุกอารมณ์ในการขับขี่ที่เหนือความคาดหมาย ภายในห้องโดยสารเต็มเปี่ยมความหรูหราและอเนกประสงค์ ด้วยพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดในรถกลุ่มเดียวกัน ตกแต่งอย่างประณีตทุกรายละเอียด ด้วยหนังแท้เกรดพรีเมียม พร้อมติดตั้งระบบทัชสกรีนแบบจอคู่บริเวณกลางแดชบอร์ด โดยจอบนมีขนาด 12.3 นิ้ว และจอล่าง 8.8 นิ้ว ใหญ่สุดเท่าที่เคยติดตั้งในรถยนต์ มาเซราติ
ระบบความบันเทิง มาพร้อมการเชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay, Android Auto และ Baidu CarLife ที่สามารถมอบประสบการณ์ในการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน โดยผู้ขับสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้สูงสุด 2 เครื่องทั้งนี้ มาเซราติ ในประเทศจีนยังได้มีการติดตั้งแอปพลิเคชัน WeChat พร้อมกับฟังก์ชันพิเศษอีกด้วย
พิเศษยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถเข้าถึงเมนูการตั้งค่าที่สะดวกสบาย พร้อมลวดลายกราฟิกที่สะดุดตา (สิ่งเหล่านี้ถูกออกแบบให้ตรงตามหลักมาตรฐานสากล) หน้าจอ head-up-display สามารถปรับค่าได้และแสดงข้อมูลที่สำคัญ เช่น ความเร็ว แผนที่ และเส้นทางการเดินทางทั้งหมดจะถูกแสดงผลบนกระจกหน้าของตัวรถยนต์เพื่อช่วยลดการละสายตาในขณะที่กำลังขับขี่
นาฬิกาดิจิทัลมีฟังก์ชันที่สามารถเรียกใช้ระบบสั่งการด้วยเสียงเพื่อช่วยผู้ขับขี่ในการทราบข้อมูลสภาพอากาศ มิเดีย การนำทาง และการโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องละสายตาจากการขับขี่ใดๆ
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ MIA Maserati Intelligent Assistant ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างเหมาะสมกับรถยนต์รุ่น Grecale Folgore เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้า Grecale Folgore
มาเซราติ ยังปรารถนาให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ในการขับขี่ที่สอดรับกับสมรรถนะของรถยนต์รุ่นนี้อย่างเต็มประสิทธิภาพผ่านการตั้งค่ารูปแบบการขับขี่ได้ตามความต้องการ ดังนั้นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในกลุ่ม Folgore รุ่น Grecale จึงมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันถึง 4 ระบบ เช่น โหมด MAX RANGE, GT, SPORT, และ OFFROAD ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดต่างๆ ผ่าน drive mode selector บนพวงมาลัย forged สีดำหุ้มด้วยหนังเจาะ และมีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์สีน้ำเงินที่ติดตั้งบนพวงมาลัย โดยโหมดดังกล่าวทั้งหมดจะทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงความเร็วของรถยนต์ Grecale Folgore เสมือนได้อยู่บนสนามแข่งในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน และโหมดการขับขี่ต่างๆ ที่มีในรถยนต์ทุกรุ่นของ Folgore จะมาพร้อมชุดระบบกันสะเทือนแบบถุงลมเพื่อมอบสุนทรีย์ที่สอดคล้องกับความต้องการ ความสะดวกสบายในการขับขี่ และความปลอดภัย
ในโหมดการขับขี่ MAX RANGE เป็นโหมดการขับขี่ที่ประหยัดพลังงาน และสามารถมอบระยะทางในการขับขี่ได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับการใช้งานในโหมดการขับขี่อื่นๆ หากผู้ขับขี่ขับรถยนต์จนเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ต่ำที่ 16 % และมีความจำเป็นต้องเดินทางต่อ หรือ ไม่สามารถหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าได้ในทันที ระบบของรถยนต์จะอนุญาตให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง และปรับลดการทำงานของระบบปรับอากาศ เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน และรักษาระยะทางขับขี่คงเหลือให้ได้มากที่สุด
การชาร์จไฟอันชาญฉลาดที่สะดวกสบายของ Grecale Folgore
ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า SUV เต็มรูปแบบรุ่น Grecale Folgore สามารถเลือกระบบโซลูชันการชาร์จแบตเตอรี่เพื่อติดตั้งได้ที่บ้านและสถานที่สาธารณะ หรือทั้ง 2 สถานที่ ***
***การชาร์จแบตเตอรี่ในที่สาธารณะมีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศ
ผู้ขับขี่ Grecale Folgore ที่จะได้รับกล่อง Wallbox อุปกรณ์ชาร์จพลังงานไฟฟ้าสำหรับติดตั้งภายในอาคาร หรือ สถานที่ที่ต้องการ เครื่องชาร์จไฟฟ้าสามารถจ่ายกำลังไฟได้ตั้งแต่ 3 กิโลวัตต์ ถึง 22 กิโลวัตต์ ผ่านการใช้เทคโนโลยี Load Balancing เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพของการจัดการระบบไฟฟ้าที่จะเข้าสู่รถยนต์
นอกจากนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มีความชื่นชอบ หรือเคยมีประสบการณ์ในรถยนต์ไฟฟ้า ยังสามารถชาร์จไฟฟ้า หรือ สั่งการใช้งานผ่านระบบ “Connected Services” ระบบสั่งการที่เสมือนเป็นรีโมตเชื่อมต่อระหว่างตัวรถและผู้ขับขี่ อาทิ การอุ่นระบบแบตเตอรี่ หรือ เปิดระบบปรับอากาศล่วงหน้า ซึ่งระบบการทำงานดังกล่าวรถยนต์จะทำการสื่อสารกับกล่องควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดการใช้พลังงานหลักที่มากเกินไป และยังเป็นการป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่หมดไปโดยใช่เหตุ
ระบบหลักของแบรนด์ มาเซราติ รุ่น Grecale Folgore
ระบบการปรับสภาพแบตเตอรี่อัตโนมัติล่วงหน้า: ผู้ขับขี่จะได้รับประสบการณ์การชาร์จที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุด Grecale Folgore ถูกติดตั้งด้วยระบบการปรับสภาพแบตเตอรี่อัตโนมัติล่วงหน้าและสามารถชาร์จไฟได้เร็วเป็นพิเศษเมื่อเข้าใกล้กับสถานีชาร์จ นอกจากนี้ระบบการปรับสภาพล่วงหน้ายังช่วยเตรียมความพร้อมของแบตเตอรี่ในการเข้าสู่โหมดการชาร์จ และช่วยลดระยะเวลาในการชาร์จเมื่ออุณหูมิของแบตเตอรี่อยู่ในจุดที่สมดุล
ระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร: Grecale Folgore ล่าสุด สามารถรักษาอุณหภูมิภายในห้องโดยสารแม้ขณะรถยังไม่ได้วิ่ง (Pre-conditioning) และระบบปรับอากาศของ Grecale Folgore ยังสามารถมอบความสะดวกสบาย ความสดชื่นให้แก่ผู้โดยสารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ระบบกำหนดเส้นทาง EV: Grecale Folgore อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการวางแผนการเดินทาง ระบบดังกล่าวช่วยให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงสภาพแบตเตอรี่และสามารถคาดคะเนปริมาณการใช้งานได้ตลอดเวลา ระบบกำหนดเส้นทาง EV จะนำเสนอสถานีการชาร์จทั้งหมดและช่วยคำนวณระยะทางในการเดินทางได้อย่างเหมาะสมที่มีผลมาจากสถานะแบตเตอรี่ ความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ รวมไปถึงการใช้งานระบบอื่น ๆ บนรถยนต์ จะถูกนำมาประมวลและแสดงผลให้ผู้ขับขี่ทราบ
ระบบแผนที่แบบ Dynamic Range: แผนที่จะทำการคำนวณระยะทางสูงสุดที่ Grecale Folgore สามารถเดินทางได้ภายใต้เงื่อนไขสถานะของแบตเตอรี่ ระยะทางสูงสุด รวมไปถึงวงรอบที่ตัวรถยนต์สามารถเดินทางได้จะถูกแสดงผลอัปเดตผ่านหน้าจอกลางตลอดเวลาโดยอิงค่าจากสถานะของแบตเตอรี่และสไตล์การขับขี่ของลูกค้า
|
ข้อมูลเชิงเทคนิค |
|
|
รถยนต์ GRECALE FOLGORE |
|
|
ขนาดและน้ำหนัก |
|
|
ความยาว (มิลลิเมตร) |
4865 |
|
ความกว้างรวมกระจกมองข้าง (มิลลิเมตร) |
2163 |
|
ความกว้างไม่รวมกระจกมองข้าง (มิลลิเมตร) |
1948 |
|
ความสูง (มิลลิเมตร) |
1651 |
|
ความยาวฐานล้อ (มิลลิเมตร) |
2903 |
|
ความกว้างล้อหน้า (มิลลิเมตร) |
1611 |
|
ความกว้างล้อหลัง (มิลลิเมตร) |
1689 |
|
ระยะยื่นหน้ารถยนต์จากล้อหน้า (ดีกรี) |
18.9 |
|
ระยะยื่นหลังรถยนต์จากล้อหลัง (ดีกรี) |
20.6 |
|
วงเลี้ยวของรถยนต์ (เมตร) |
12,3 |
|
ความจุห้องเก็บสัมภาระสัมภาระ (ลิตร) |
535 |
|
น้ำหนักรถยนต์ (กิโลกรัม) |
2480* |
|
อัตราส่วนการกระจายน้ำหนัก |
47.2/52.8* |
|
ระบบขับเคลื่อน |
|
|
มอเตอร์ |
มอเตอร์ 2 x 205 กิโลวัตต์ |
|
แรงม้า (ที่เกิดขึ้นบริเวณล้อ) |
410 กิโลวัตต์ |
|
แรงบิด |
820 นิวตันเมตร |
|
ประจุแบตเตอรี่ (ชาร์จไฟเต็ม) |
105 กิโลวัตต์-ชั่วโมง |
|
ระบบชาร์จเร็วกระแสตรง DC – 400 โวลต์ |
|
|
ชาร์จกระแสตรง DC |
20->80% ภายในระยะเวลา 29 นาที หรือ 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ภายในระยะเวลา 9 นาที** |
|
ชาร์จกระแสสลับ AC |
|
|
ระยะทางที่วิ่งได้ตามตามมาตรฐาน WLTP |
500 กิโลเมตร*** |
|
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยตามมาตรฐาน WLTP |
23.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร*** |
|
สมรรถนะ |
|
|
ความเร็วสูงสุด กิโลเมตร/ ชั่วโมง |
220*** |
|
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง |
4,1” * |
|
อัตราเร่ง 0-200 กิโลเมตร/ ชั่วโมง |
16.1” * |
|
ระบบส่งกำลัง |
|
|
ระบบส่งกำลัง |
ขับเคลื่อนแบบ AWD / มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ |
|
ช่วงล่าง |
|
|
ด้านหน้า |
ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกพร้อม virtual steering axis, แดมเปอร์แบบถุงลมปรับระดับได้ |
|
ด้านหลัง |
|
|
เบรก |
|
|
เบรกหน้า |
จานเบรกแบบ Monolithic ventilated , ขนาด 350 x 28 มิลลิเมตร ปั๊มเบรก Brembo แบบ 4 ลูกสูบ |
|
เบรกหลัง |
จานเบรกแบบ Monolithic ventilated , ขนาด 350 x 22 มิลลิเมตร ปั๊มเบรกแบบ Continental floating (เทคโนโลยี MoC) |
|
ยาง |
|
|
ยางหน้า |
255/40 R21 – 255/45 R20 – 255/50 R19**** |
|
ยางหลัง |
295/35 R21 – 295/40 R20 – 255/50 R19**** |
*ข้อกำหนดตามสหภาพยุโรป
**การคาดการณ์ของข้อมูล
**การคาดการณ์ของข้อมูลและตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป
****ข้อมูลสำหรับสหภาพยุโรปเท่านั้น
##




