เมอร์เซเดส-เบนซ์ เสริมทัพรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” พร้อมด้วย “Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select”

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกสองเซกเมนต์ในตลาดรถยนต์ลักชัวรีพร้อมกัน ด้วยการเปิดตัว “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” เวอร์ชันใหม่แบบปลั๊กอินไฮบริดของ The new C-Class โฉมปัจจุบันที่ถูกใจแฟนเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่อง และ “Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select” รถตู้อเนกประสงค์สำหรับผู้บริหารยังเจนที่ตอบทุกโจทย์การใช้งานทั้งในวันทำงานและวันหยุด โดยทั้งสองรุ่นมีวางจำหน่ายที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

มร. โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้แนะนำ The new Mercedes-Benz C-Class รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลออกมาเป็นคันแรกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมเช่นเคย วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะนำเสนออีกหนึ่งเวอร์ชันใหม่ของรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดรุ่นหนึ่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทยคันนี้ กับ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic รุ่นปลั๊กอินไฮบริดใหม่ที่ผสานขุมพลังเบนซินกับพลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เจเนอเรชันที่ 4 ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจในทุกสภาพถนน ทั้งยังประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะผู้ขับขี่สามารถเลือกขับด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร เท่านั้นยังไม่พอ วันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยัง ขอแนะนำ Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select ใหม่ ที่สุดแห่งความหรูหราในแบบฉบับอเนกประสงค์ของรถตู้ระดับพรีเมียมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่สามารถจุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 11 ที่นั่ง ตอบโจทย์ทั้งสำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการความกว้างขวางสะดวกสบายในวันทำงาน และการเป็นรถยนต์สำหรับการใช้งานได้อีกหลายรูปแบบในวันหยุดหรือในทุกวันที่ต้องการ การเปิดตัวรถยนต์ทั้งสองรุ่นในวันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ารุ่นใหม่ที่สัมผัสได้ถึงจุดเด่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา และช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในทั้งสองเซกเมนต์ในตลาดรถยนต์ลักชัวรีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

“Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” คือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในรุ่น C-Class ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็น เจเนอเรชันที่ 4 ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร โดยรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันนี้สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดจากการขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าได้ถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในการชาร์จพลังงานไฟฟ้า หากเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC charger) จะใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ส่วน

การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charger) จะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ซึ่งด้วยความสะดวกในการเลือกใช้งานได้ทั้งสองระบบ ประกอบกับการชาร์จพลังไฟฟ้าด้วยเวลาไม่นาน หากเป็นการขับขี่ภายในเมือง ผู้ใช้สามารถใช้รถยนต์คันนี้ได้อย่างสะดวกสบายด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

รถยนต์คันนี้มาพร้อมรายละเอียดของการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ใหม่ในคอนเซ็ปต์ Sensual Purity ที่ให้สัมผัสที่ผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความหรูหรา ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบสปอร์ตและขนาดตัวรถที่กว้างขึ้นในทุกมิติ จึงช่วยมอบความสะดวกสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ส่วนดีไซน์ภายในก้าวไปอีกขั้นกับการตกแต่งที่ถอดแบบมาจากรุ่น S-Class ทั้งหน้าจอ LCD ความละเอียดสูง การปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 แบบ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มด้วยหนัง คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่พร้อม จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 11.9 นิ้วที่เบี่ยงเป็นมุมเฉียงมายังผู้ขับขี่เล็กน้อย ทั้งยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยและมาตรฐานของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ได้รับการยกระดับขึ้นอีกขั้น


Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

“Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” คือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในรุ่น C-Class ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็นเจเนอเรชันที่ 4 ให้กำลังสูงสุดรวม 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดรวม 550 นิวตันเมตร โดยรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันนี้สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดจากโหมดการขับขี่แบบพลังไฟฟ้าล้วน (EL) ได้ถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในการชาร์จพลังงานไฟฟ้า หากเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC charger) จะใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ส่วนการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charger) จะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ซึ่งด้วยความสะดวกในการเลือกใช้งานได้ทั้งสองระบบ ประกอบกับการชาร์จพลังไฟฟ้าด้วยเวลาไม่นาน หากเป็นการขับขี่ภายในเมือง ผู้ใช้สามารถใช้รถยนต์คันนี้ได้อย่างสะดวกสบายด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

การออกแบบมีเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ใหม่ในคอนเซ็ปต์ Sensual Purity ที่ให้สัมผัสที่ผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความหรูหรา ดีไซน์ภายนอกดูโดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่พร้อม Star pattern อันเป็นเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT ที่มาพร้อมความละเอียดมากกว่า 1 ล้านพิกเซลในโคมไฟแต่ละข้าง กับรายละเอียดของการทำงานประสานกันระหว่างฟังก์ชัน Adaptive Highbeam Assist Plus ที่สามารถควบคุมไฟ LED ให้สอดรับกับสถานการณ์บนท้องถนนได้อย่างอิสระ และ ULTRA RANGEHighbeam ที่ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างเหมาะสม ชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่เน้นความสปอร์ต ส่วนด้านหลังดีไซน์ไฟท้าย LED ถัดลงมาเป็นกันชนหลังดีไซน์เท่ พร้อมกรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่งและล้ออัลลอย AMG 5 twin-spoke ขนาด 18 นิ้ว โดยในภาพรวม ตัวรถมีขนาดกว้างขึ้นในทุกมิติมอบการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารในที่นั่งด้านหลัง นอกจากนี้ ถังน้ำมันขนาดความจุ 50 ลิตรยังช่วยมอบอิสรภาพในการเดินทางที่มากยิ่งกว่าที่เคย

สำหรับดีไซน์ภายในของรถยนต์คันนี้ได้ก้าวไปอีกขั้นกับการตกแต่งภายในที่ถอดแบบมาจากรุ่น S-Class ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ LCD ความละเอียดสูงบริเวณด้านหน้าของผู้ขับขี่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วแสดงผลคมชัด ให้ภาพที่อ่านง่ายในทุกสภาพแสง สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ "Discreet”, “Sporty”, “Classic"  พร้อม 3 โหมดการใช้งาน ได้แก่ Navigation, Assistance และ Service พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มด้วยหนัง คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่พร้อมจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 11.9 นิ้วที่เบี่ยงเป็นมุมเฉียงมายังผู้ขับขี่เล็กน้อย มาพร้อมระบบปรับอากาศควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ 2 โซนรวมถึงระบบความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) รุ่นล่าสุดเอาไว้ด้วยกัน พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง รวมถึงฟังก์ชันการสแกนลายนิ้ว มือ (fingerprint scanner) ที่สามารถพาผู้ใช้เข้าสู่ระบบ MBUX ที่มีการตั้งค่าเฉพาะบุคคลได้รวดเร็ว สะดวก และปลอดภัยยิ่งขึ้น และระบบจะช่วยเรียนรู้พฤติกรรมการขับขี่ด้วยระบบ AI ที่ช่วยปรับการตั้งค่าของรถให้ดั่งเสมือน Comfort zone ของคุณ นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย เบาะนั่งสไตล์สปอร์ตหุ้มด้วยหนังคุณภาพสูงและส่วนรองรับศีรษะที่ได้รับการออกแบบใหม่ และไฟล้อมรอบห้องโดยสาร premium Ambient Lighting64 สี รวมถึงฟังก์ชันสุดไฮเทคอีกมากมายที่จะเพิ่มความสะดวกสบายและน่าประทับใจในทุกการขับขี่

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ยังมาพร้อมความโดดเด่นของระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), Lane Tracking package ที่ประกอบด้วยระบบ Active Lane Keeping Assist ที่ช่วยดึงรถกลับเข้าช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติหากตรวจพบความเสี่ยงในการชน และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist) รวมถึงระบบช่วยจอดด้วย PARKTRONIC ที่ตรวจจับพื้นที่จอดรถว่าง พร้อมกล้องถอยหลังและเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกที่ช่วยทำให้เข้าจอดได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ตัวถังยังมีการออกแบบอย่างชาญฉลาดพร้อมห้องโดยสารที่แข็งแรงเป็นพิเศษและโครงสร้างรถที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การปกป้องที่ดีที่สุดสำหรับผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ฯลฯ

รุ่น

เครื่องยนต์

ความจุแบตเตอรี่ (kWh)

แรงม้าสูงสุด
  (แรงม้า)

แรงบิดสูงสุด

(นิวตันเมตร)

อัตราเร่ง

0-100

กม./ชม.
(วินาที)

ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic

เบนซินขนาด 1,999 ซีซี

25.4

313

550

6.1

245

Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic มีวางจำหน่ายในราคา 3,350,000 บาท


“Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select” ใหม่คือรถยนต์นั่งขนาด 11 ที่นั่งระดับพรีเมียมที่พร้อมตอบทุกช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคนในทุกเส้นทาง ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี เจเนอเรชันล่าสุดที่ให้กำลังมากขึ้นทว่าให้อัตราสิ้นเปลืองที่ลดลง ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงที่ 9.6 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 205 กิโลเมตร/ชั่วโมง Mercedes-Benz Vito ใหม่นำเสนอดีไซน์ภายนอกที่มีความโดดเด่นในทุกเส้นทาง ด้วยกระจังหน้าโครเมียมกับไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light และล้ออัลลอย Multispoke ขนาด 17 นิ้ว พร้อมประตูบานเลื่อนซ้าย-ขวาที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ควบคุมการเปิด-ปิดด้วยรีโมทคอนโทรล ดีไซน์ภายในมีเอกลักษณ์กับห้องโดยสารกว้างขวางที่พร้อมเชื่อมต่อให้ทุกการทำงานของคุณลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกับระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติภายในห้องโดยสาร (Thermotronic) ขับเคลื่อนความสุขและความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของทุกคนได้ตลอดการเดินทาง




Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select

“Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select” ใหม่คือรถยนต์นั่งขนาด 11 ที่นั่งระดับพรีเมียมที่พร้อมตอบทุกช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคนในทุกเส้นทาง ทั้งผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการความกว้างขวางสะดวกสบายในวันทำงาน และการมอบความสุขให้กับทุกคนในครอบครัวในทุกวันที่ต้องการ เพราะรถยนต์คันนี้ออกแบบมาเพื่อครอบครัวใหญ่โดยเฉพาะ กับห้องโดยสารที่กว้างขวางและเบาะนั่ง 11 ที่นั่งที่สามารถปรับเลื่อนตำแหน่งได้เพื่อรองรับทุกอิริยาบถ พร้อมความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกับระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติภายในห้องโดยสาร (Thermotronic) ขับเคลื่อนความสุขและความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของทุกคนได้ตลอดการเดินทาง

Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี เจเนอเรชันล่าสุดที่ให้กำลังมากขึ้นทว่าให้อัตราสิ้นเปลืองที่ลดลง โดยให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 4,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตรที่ 1,350-2,400 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงที่ 9.6 วินาที และมอบความเร็วสูงสุดที่ 205 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นในทุกเส้นทางด้วยกระจังหน้าโครเมียมกับไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับเคลื่อนไปในทุกเส้นทาง พร้อมประตูบานเลื่อนซ้าย-ขวาที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ควบคุมการเปิด-ปิดได้อย่างสะดวกสบายด้วยรีโมทคอนโทรล ทั้งยังดูมีสไตล์ด้วยล้ออัลลอย Multispoke ขนาด 17 นิ้ว เพิ่มความสะดวกสบายด้วยกระจกมองข้างแบบพับอัตโนมัติ และระบบกันสะเทือนแบบ comfort ที่เสริมสร้างความนุ่มนวลตลอดเส้นทาง

ภายในห้องโดยสารของรถยนต์คันนี้พร้อมเชื่อมต่อให้ทุกการทำงานของคุณลื่นไหลไม่มีสะดุดด้วยชุดมัลติมีเดีย Audio 30 หน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto มั่นใจไร้กังวลในทุกการเดินทางด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อมแป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์และระบบรักษาความเร็ว รองรับทุกความต้องการกับพื้นที่เก็บของสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และตกแต่งภายในด้วยวัสดุโครเมียม ทำให้รถยนต์คันนี้เป็นพื้นที่แห่งความสุขสำหรับทุกคน

Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานและระบบความปลอดภัยมากมาย อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบรักษาตำแหน่งรถในเลน กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอดและเซ็นเซอร์ช่วยในการนำเข้าจอด (PARKTRONIC) ไฟเบรกกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (Adaptive brake light)ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)และระบบรักษาการทรงตัวกรณีมีลมขวางปะทะรถด้านข้าง (Crosswind Assist) ฯลฯ

รุ่น

เครื่องยนต์

ปริมาตรกระบอกสูบ

(ซีซี)

แรงม้าสูงสุด
  (แรงม้า/รอบต่อนาที)

แรงบิดสูงสุด

(นิวตันเมตร / รอบต่อนาที)

อัตราเร่ง

0-100

กม./ชม.
(วินาที)

ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)

Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select

ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ

1,950

190/4,200

440/1,350-2,400

9.6

205

 Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select วางจำหน่ายในราคา 3,100,000 บาท

 



Visitors: 1,494,922