เมอร์เซเดส-เบนซ์ เดินเกมรุกตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงต่อเนื่อง เปิดตัว Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ สปอร์ตสายพันธุ์แรง

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดตัวรถสปอร์ตสายพันธุ์แรง Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ เสริมพอร์ตโฟลิโอกลุ่ม ยนตรกรรมสปอร์ตสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ตอบสนองความเร้าใจในทุกมิติให้กับผู้ขับขี่ด้วยสมรรถนะอันทรงพลังจากขุมพลังเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร และเทคโนโลยีแบบมอเตอร์สปอร์ต มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว และดุดันเต็มพิกัดตามแบบฉบับของ Mercedes-AMG โดยนำเสนอในราคา 17,900,000 ล้านบาท

มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยึดถือหลักการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่สามารถ ‘ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ – Driving Performance’ เป็นหัวใจหลัก ผ่านการส่งมอบนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ที่หลงใหลในการขับเคลื่อนอันทรงพลังทั้งในด้านสมรรถนะ และรูปลักษณ์ดีไซน์ โดยนับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยช่วงปลายปี 2560 แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ได้สร้างปรากฏการณ์ด้านยอดขายที่เติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 300% ถือเป็นแบรนด์รถยนต์สปอร์ตที่เข้าไปนั่งในใจกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบยนตรกรรมสมรรถนะสูงในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว โดยเราเน้นการใช้กลยุทธ์ “Customer Centric” (คัสตอมเมอร์ เซ็นทริค) ที่เน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีความหลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างครอบคลุม และตรงจุด เนื่องจากลูกค้าชาวไทยมีความต้องการที่เป็นเอกลักษณ์ และแตกต่างอย่างชัดเจน”

มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จของแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นมาที่รถยนต์กลุ่มที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนิช มาร์เก็ต (Niche Market) มากขึ้น ล่าสุด จึงได้เปิดตัว Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ รถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์แรงที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีแบบมอเตอร์สปอร์ตเต็มสมรรถนะ พร้อมมอบประสบการณ์ความเร้าใจให้กับ ทุกการขับขี่ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ผสานพลังกับระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ 7 สปีด ช่วยทำให้รถมีความคล่องตัวและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีดีไซน์สปอร์ตเต็มตัวที่ โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย และโดดเด่นไม่เหมือนใครตามแบบฉบับของ Mercedes-AMG และถือเป็น การแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการไปอีกขั้นของรถยนต์ในตระกูลนี้ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน”

“ปัจจุบัน บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG ให้ลูกค้าเลือกสรรมากมายครอบคลุมรถยนต์ทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่รถยนต์คอมแพค รถยนต์สปอร์ต รถยนต์ซาลูน รถยนต์เอสยูวี รถยนต์สไตล์คูเป้ และรถยนต์ สไตล์โรดสเตอร์ และจากการเปิดตัว Mercedes-AMG GT R ในครั้งนี้ ส่งผลให้ปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) นำเสนอรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG แก่ลูกค้าชาวไทยรวมจำนวนทั้งหมด 19 รุ่นย่อย ได้แก่ Mercedes-AMG A 45 4MATIC, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG C 63 S Coupé, Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG E 53 4MATIC+, Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupé, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+, Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupé, Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupé, Mercedes-AMG G 63, Mercedes-AMG GT S, Mercedes-AMG GT C Roadster รวมถึงรุ่นล่าสุดอย่าง Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ ที่มาเติมเต็ม พอร์ทโฟลิโอรถยนต์ในกลุ่มสปอร์ตสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทยให้ครบครัน มากยิ่งขึ้น” มร.บีเยิร์น กล่าวเสริม

Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่
Mercedes-AMG GT R เป็นรถสปอร์ตตระกูล AMG GT และเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรก ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันล้ำสมัยของรถแข่งมาประยุกต์ใช้ ซึ่งถือเป็นการยกระดับการขับขี่ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและความเร้าใจในทุกท่วงท่า รถยนต์รุ่นนี้เป็นการผสมผสานระหว่างสมรรถนะของรถสปอร์ตกลุ่ม AMG GT 3 กับการใช้งาน ในชีวิตประจำวันของรถสปอร์ตกลุ่ม AMG GT เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้กับ ผู้เป็นเจ้าของที่ชื่นชอบความเร็ว

ดีไซน์ภายนอก รูปลักษณ์ของ Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ สะท้อนปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity ที่ทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์และเอเอ็มจียึดถือ ส่วนหน้าของตัวรถมีลักษณะลาดต่ำ และกระจังหน้าแบบ AMG-specific radiator trim ที่ยื่นออกไปคล้ายจมูกฉลามนั้นสามารถ ช่วยลดแรงกดที่ด้านหลังตัวรถ ส่งผลให้การไหลเวียนของอากาศขณะรถเคลื่อนที่ดีขึ้น อีกทั้ง ยังประกอบด้วยวัสดุบังคับลมชุบโครเมี่ยม 15 ซี่เช่นเดียวกับรถแข่งรุ่น Mercedes-AMG GT 3, ล้ออัลลอยแบบ AMG forged wheels มีน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดพลังงาน และทำให้ระบบช่วงล่างและการหมุนพวงมาลัยเป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำ นอกจากนั้นยังมีหลังคารถที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอน เสริมให้ตัวรถมีสีสันตัดกันสวยงามพร้อมติดตั้ง ระบบเบรกแบบ AMG high-performance composite brake สีเหลืองที่เป็นสีพิเศษสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ

ดีไซน์ภายใน ห้องโดยสารของ Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งดีไซน์ใหม่ในหลายจุด ซึ่งเป็นการออกแบบที่ได้รับอิทธิพลมาจากรถยนต์มอเตอร์สปอร์ต อาทิ เบาะที่นั่งที่ถูกปรับให้ต่ำลงเพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ อีกทั้งยังเป็นเบาะที่นั่งแบบ AMG Bucket Seats หุ้มด้วยหนัง Nappa และ DINAMICA Microfibre ที่ช่วยปกป้องลำตัวด้านข้างได้ดีแม้ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ทั้งนี้ ผู้เป็นเจ้าของสามารถเลือกติดตั้งเบาะที่นั่งแบบ AMG Performance และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อเพิ่มความเร้าอารมณ์ขณะขับขี่ เช่น ชุดเข็มขัดนิรภัย สีเหลือง หรือชุดแต่งห้องโดยสาร AMG Interior Piano Lacquer เป็นต้น, ชุดแต่ง AMG Interior Night เป็นชุดแต่งมาตรฐานของรถยนต์รุ่นนี้ มาพร้อมพวงมาลัยแบบ AMG Performance Steering ตกแต่งด้วย DINAMICA Microfiber สีดำ พร้อมหน้าจอแสดงผล บนพวงมาลัยจำนวน 2 หน้าจอแบบ AMG steering wheel buttons ลงตัวด้วยหน้าจอเรือนไมล์แบบ all-digital instrument display ขนาด 12.3 นิ้ว และเกียร์จะชุบสีดำเงาทั้งหมด, แผงหน้าปัดกว้างดีไซน์ใหม่ด้วยอัตราส่วนแบบ 16:9 ขนาด 10.15 นิ้ว ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแบบ COMAND Online สื่อถึงเอกลักษณ์ของงานออกแบบอากาศยาน, แผงควบคุมตรงกลางมีหน้าจอแสดงผลมากถึง 8 จอบริเวณคอนโซลกลางแบบ AMG DRIVE UNIT ที่ออกแบบตามลักษณะเครื่องยนต์แบบ V8 และมีช่องลมของเครื่องปรับอากาศ 4 ช่อง ที่ดูคล้ายสปอตไลท์

ความปลอดภัยและเทคโนโลยี Mercedes-AMG GT R มีระบบกันสะเทือนที่ออกแบบ มาเพื่อใช้กับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะโดยจะทำงานร่วมกับระบบ AMG RIDE CONTROL ด้วย การใช้โครงสร้างปีกนกสองชั้นเพื่อรักษาสมดุลของล้อ และติดสปริงไว้ด้านบน, ใช้นวัตกรรม AMG Lightweight Performance ที่เลือกสรรวัสดุน้ำหนักเบามาใช้ในการผลิต ทำให้โครงสร้างของรถมีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง แต่แข็งแกร่งและสามารถกระจายแรงได้เป็นอย่างดี, ระบบควบคุมการยึดเกาะเอเอ็มจีแบบ 9 ระดับ หรือ AMG TRACTION CONTROL สามารถจำลองค่าแรงเสียดทานภายในระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเพื่อเตรียมระบบต่างๆ ของรถให้สอดคล้องกับสภาพพื้นถนน โดยมีกลไกชุดหม้อเพลาท้ายรถแบบ LSD เป็นตัวช่วย, เสาค้ำยึดล้อคู่หน้าช่วยลดแรงปะทะขณะเกิดอุบัติเหตุ, ยางรองแท่นเครื่องยนต์และยางรองแท่นเกียร์ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มความสบายและคล่องตัวขณะขับขี่ โดยระบบสามารถปรับแต่งความยืดหยุ่นของทั้งสองชิ้นได้อย่างเป็นอิสระจากกัน ช่วยกระจายแรงกระทำด้านข้างได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีระบบท่อไอเสียเอเอ็มจีเพอร์ฟอร์มานซ์รูปทรงหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ใช้ท่อเก็บเสียงที่ผลิตจากไทเทเนี่ยมและเหล็กกล้าไร้สนิม ให้เสียงคล้ายคลึงกับเสียงรถแข่ง

Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ มาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดของเกียร์หลักได้ 5 แบบ คือ “C” (Comfort) สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลายและสะดวกสบาย, “S” (Sport) และ “S+” (Sport Plus) เน้นความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น และ “I” (Individual) ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้ อีกทั้งยังมีโหมด “RACE” ที่เป็นโหมดเสริมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความแรงและเกียร์ที่เปลี่ยนได้รวดเร็วเหมือนอยู่ในสนามแข่งรถ ซึ่งจะมาพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่เร้าอารมณ์ ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถสร้างข้อกำหนดทั้งหมดในแต่ละโหมดการขับขี่เองได้ด้วยการกดปุ่ม “M” (Manual) ที่อยู่ตรงกลางแผงควบคุม, ระบบเพลาหลังแบบแอคทีฟ (active rear axle steering) ที่จะหมุนเพลาล้อคู่หลังไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเพลาล้อคู่หน้าเมื่อใช้ความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น และประหยัดแรงในการหมุนพวงมาลัย แต่หากความเร็วสูงสุดเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ทั้งล้อคู่หน้าและหลังจะหมุนไปในทิศทางเดียวกันเพื่อเสริมสมดุลให้กับตัวรถ ทำให้ท้ายรถไม่ปัดเมื่อหักเลี้ยว

Mercedes-AMG GT R โฉมใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ความจุกระบอกสูบ 4 ลิตร ระบบไดเรค อินเจคชั่น และระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ 7 สปีด (seven-speed dual clutch transmission) ที่ช่วยทำให้รถมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น และการตอบสนองของระบบเกียร์ จะดีขึ้นตามจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ของผู้ขับขี่




• Mercedes-AMG GT R ราคา 17,900,000 บาท

Visitors: 1,489,468