'ไอ-มอเตอร์' เขย่าวงการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เปิดตัว THUNDER : The Ultimate EV Bike ที่สุดของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหนึ่งเดียว พร้อมบุกตลาดอาเซียน MOU ผู้แทนจำหน่าย 5 ประเทศ หวังกวาดยอดขายทะลุ 12,000 คัน หรือประมาณ 770 ล้านบาท
Tags: i-motor, ev bike, thunder, ไอ-มอเตอร์แมนูแฟคเจอริ่ง, i-motor manufacturing, รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
บริษัท ไอ-มอเตอร์แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของไทย ภายใต้แบรนด์ “ไอ-มอเตอร์” เปิดตัว THUNDER : The Ultimate EV Bike สุดยอดนวัตกรรมรถมอเตอร์ไซค์ ไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีโครงสร้างอัจฉริยะ “MPF Mark II” ที่แข็งแกร่ง เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ในทุ กสภาพถนน เทียบเท่ากับรถมอเตอร์ไซค์น้ำมั น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยขุมพลังมอเตอร์ 3,000 วัตต์ ที่จะพาคุณเดินทางไปได้ไกลกว่า 110 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. ปลอดภัยทุกการขับขี่ หยุดรถอย่างมั่นใจด้วยระบบเบรก CBS Proactive Suspension (Combined Breaking System) ตั้งเป้ายอดขาย 770 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าบุกตลาดอาเซียน สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลาว และศรีลังกา เพื่อปฏิวัติวงการรถมอเตอร์ไซค์ ไฟฟ้าหนึ่งเดียวในไทย และอาเซียนที่ได้รับมาตรฐานอุ ตสาหกรรมยานยนต์ในระดับสากล
นายปรีชา ประเสริฐถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-มอเตอร์แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ไอ-มอเตอร์ฯ เราเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของไทย ภายใต้แบรนด์ “ไอ-มอเตอร์” มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ แรกของคนไทย ที่ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรั บรองมาตรฐานการผลิตอันเป็นที่ ยอมรับในอุตสาหกรรมยานยนต์หนึ่ งเดียวในประเทศไทยและอาเซียน โดยมีบริษัทแม่ คือ บริษัท นิวสมไทยมอเตอร์เวอร์ค จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มี ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้ านเทคโนโลยีในการผลิตชิ้นส่ วนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์รวมถึ งมอเตอร์ไซค์แบรนด์ญี่ปุ่ นมามากกว่า 60 ปี และบริษัท จินป่าว พรีซิชั่น อินดัสทรี่ จำกัด ผู้พัฒนาและผลิตซอฟต์แวร์ติดตั้ งใน ไอ-มอเตอร์ รวมถึงในอุ ตสาหกรรมอากาศยานและยานยนต์ มายาวนานกว่า 40 ปี ทำให้กลุ่มบริษัทพันธมิตรในเครื อมีความพร้อมทั้งในด้าน Know-How, ทีม R&D ที่มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ อย่างต่อเนื่อง, ทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ความพร้อมด้านเทคโนโลยีและเครื่ องจักรในการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีมาตรฐานและเป็นที่ ยอมรับในระดับสากล
เราจะปฏิวัติวงการ “ทำให้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีจำหน่ายอยู่ในประเทศไทยและอาเซี ยน มีสมรรถนะในการขับขี่เทียบเท่ ามอเตอร์ไซค์น้ำมัน พร้อมมาตรฐานการผลิต ชิ้นส่วน บริการหลังการขายพร้อมอะไหล่ มาตรฐานที่ใช้ทดแทนกันได้ และความปลอดภัยตามมาตรฐานอุ ตสาหกรรมยานยนต์ในระดับสากล ด้วยราคาที่เหมาะสมเข้าถึงผู้ขั บขี่ทุกกลุ่มซึ่งจะช่วยส่งเสริ มและสนับสนุนให้มีผู้ใช้ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในตลาดมากยิ่ งขึ้น”
นายปรีชา กล่าวอีกว่า ในปีนี้เราจะบุกตลาดอาเซียนเต็มรูปแบบ โดยมีการเซ็นสัญญากับผู้ แทนจำหน่ายในประเทศสิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ลาว และศรีลังกา และตั้งเป้าว่าภายใน 2 ปี เราจะวิจัยและพัฒนามอเตอร์ไซค์ ไฟฟ้าออกสู่ตลาดอย่างน้อย 2-3 รุ่น และในปลายนี้เราเตรียมส่ งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า “ไอ-มอเตอร์” ออกจำหน่ายในประเทศกลุ่มยุโรปอี กด้วย
พร้อมกันนี้ เรายังเดินหน้าบุกตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด THUNDER : The Ultimate EV Bike สุดยอดนวัตกรรมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ า โดยเราได้ออกแบบและพัฒนาโครงสร้ างรถให้มีจุดศูนย์ถ่วง และการกระจายน้ำหนักของตัวรถอย่ างมีเสถียรภาพ พร้อมโครงสร้าง “MPF Mark II” ที่แข็งแกร่ง ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ สามารถขับขี่ได้ทุกสภาพถนน เทียบเท่ากับมอเตอร์ไซต์ที่ใช้ น้ำมัน ชาร์จแบตเตอร์รี่เร็วขึ้นกว่า 3 เท่า มีให้เลือก 2 รุ่น คือ THUNDER ราคาเริ่มต้น 59,000 บาท และ รุ่น THUNDER Croz ราคาเริ่มต้น 64,500 บาท โดยเรามีการรับประกันโครงสร้าง 10 ปี ,แบตเตอรี่ 5 ปี ,Body Parts 3 ปี ,ECU และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ปี ,หน้าจอและชาร์จเจอร์ 1 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร พร้อมบริการหลังการขายด้วยทีมช่ างมืออาชีพรับประกันอะไหล่แท้ และราคาเดียวกันทั่วประเทศ
นายคมค์ปภัส จารุวิสินวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไอ-มอเตอร์แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์ในการทำตลาดของบริษัทฯ ว่า ไอ-มอเตอร์ มีเป้าหมายที่ต้องการผลิ ตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้มี สมรรถนะเทียบเท่ากับรถมอเตอร์ ไซค์น้ำมัน โดยให้ความสำคัญใน 3 ส่วนหลัก คือ
1. ผลิตภัณฑ์ที่ได้การรับรองและเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล เช่น UNR136, R78, E-Mark, ISO 9001-2015 และการรับรองจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้ใช้ โลโก้และคำว่า “Made in Thailand” ได้เป็นรายแรก และรายเดียวของไทย รวมถึงงานดีไซน์ที่เน้ นความแตกต่างและสีสันที่โดดเด่ นไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะฟังก์ชันการใช้งานที่ ตอบโจทย์การขับขี่ในชีวิ ตประจำวัน เดินทางท่องเที่ยว และผู้ประกอบการที่ใช้ขนส่ง- บรรทุกสินค้าได้อย่างมั่นใจ
2. พันธมิตรทางธุรกิจ การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับตัวแทนจำหน่าย และซัพพลายเออร์ทั้ งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการให้ความสำคัญและความร่ วมมือในการพัฒนาเพื่อความก้ าวหน้าและประสบความสำเร็จไปด้ วยกัน
3. ลูกค้า “Family Marketing” คือ กลยุทธ์ที่ ไอ-มอเตอร์ เลือกใช้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่การผลิตสินค้าดีที่มีคุณภาพมาตรฐานระดั บสากลตอบโจทย์การใช้งาน พร้อมบริการหลั งการขายมาตรฐานเดียวกันทั่ วประเทศ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี และความประทับใจ สร้างการบอกต่อในกลุ่มผู้ใช้ด้ วยกันเอง
นายคมค์ปภัส กล่าวอีกว่า เรามุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานสากล เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งาน รวมถึงบริการหลังการขายด้วยที มงานมืออาชีพ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความประทับใจในสินค้าและบริ การ เพราะเราเชื่อว่า “หากเราสามารถผลิตสินค้าที่มีคุ ณภาพ มีบริการหลังการขายที่ดี ลูกค้าก็จะบอกต่อและทำให้เกิ ดฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี”
“ในปี 2567 นี้ เราตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 12,000 คัน หรือ ประมาณ 770 ล้านบาท โดยจะแบ่งเป็นตลาดพรีเมียมประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ตลาดแมส 80 เปอร์เซ็นต์ และมีสัดส่วนขายในประเทศประมาณ 85% และส่งออกไปต่างประเทศอีก 15%” นายคมค์ปภัส กล่าวสรุปในตอนท้าย
ผู้ที่สนใจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ “ไอ-มอเตอร์” หรือ สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-855-396-070 หรือติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ที่ www.imotorthailand.com หรือ www.facebook.com/imotorthailandbkk