ROLLS-ROYCE MOTOR CARS เผยสถิติยอดขายปี 2564

“ปีพ.ศ. 2564 เป็นปีแห่งปรากฎการณ์สำคัญสำหรับ Rolls-Royce Motor Cars เราได้ส่งมอบรถยนต์มากกว่าครั้งใด ๆ ในประวัติศาสตร์ 117 ปีของแบรนด์ ด้วยจำนวนความต้องการที่สูงมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนสำหรับยนตรกรรมทุกรุ่นในทุกตลาดทั่วโลก ด้วยรุ่นยนตรกรรมที่สุดยอดของเราพร้อมข้อเสนอของการบริการสั่งผลิตพิเศษที่โดดเด่น ผนวกกับยนตรกรรม Ghost ใหม่ที่ออกสู่ตลาดในช่วงปีแรก การเปิดตัว Black Badge Ghost ในเดือนตุลาคม รวมถึงความต้องการอย่างต่อเนื่องสำหรับการสั่งผลิตยนตรกรรมบีสโป๊กตามความต้องการเฉพาะบุคคลล้วนต่างมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตที่แข็งแกร่งของเรา สิ่งเหล่านี้เป็นกำลังสนับสนุนสำคัญเมื่อเราเตรียมการเปิดตัวครั้งประวัติศาสตร์ของ Spectre รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของเรา และจากความสำเร็จในปีนี้ เราจะยังคงพัฒนาต่อไปในฐานะแบรนด์หรูอย่างแท้จริงที่ไม่ได้จำกัดอยู่ในกรอบของการผลิตยานยนต์ทั่วไป”

Torsten Müller-Ötvös, Chief Executive Officer, Rolls-Royce Motor Cars



ในปีพ.ศ. 2564 Roll-Royce Motor Cars สร้างสถิติยอดขายประจำปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 117 ปีของประวัติศาสตร์แบรนด์

บริษัทฯ ส่งมอบรถยนต์จำนวน 5,586 คันให้แก่ลูกค้าทั่วโลก สะท้อนการเติบโตสูงถึง 49% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีพ.ศ. 2563 ยอดจำหน่ายโดยรวมนี้รวมถึงยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในภูมิภาคส่วนใหญ่รวมประเทศจีน ทวีปอเมริกา และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และในอีกหลายประเทศทั่วโลก

ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ทุกรุ่นล้วนได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม การเติบโตได้รับแรงหนุนจากยนตรกรรม Ghost เป็นหลักด้วยความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นภายหลังการเปิดตัว Black Badge Ghost ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 ผนวกกับความโดดเด่นอย่างต่อเนื่องของ Cullinan และสุดยอดยนตรกรรมของแบรนด์อย่าง Phantom ส่งผลให้ยอดการสั่งจองการผลิตเต็มไปถึงไตรมาสที่ 3 ของปีพ.ศ. 2565 อีกทั้ง โปรแกรม Provenance (ยนตรกรรมที่เคยผ่านการใช้งานมาแล้ว) ของบริษัทฯ ก็มียอดจำหน่ายในปีพ.ศ. 2564 ที่ยอดเยี่ยมเช่นกันโดยการทำสถิติสูงสุดตลอดกาล

จำนวนการสั่งผลิตยนตรกรรมบีสโป๊กยังคงเติบโตขึ้นเป็นประวัติการณ์ด้วยตัวอย่างผลงานยนตรกรรมบีสโป๊กเฉพาะบุคคลที่งดงาม ได้แก่ Phantom Oribe อันน่าทึ่งที่สร้างสรรค์ร่วมกับ Hermès ควบคู่ไปกับ Phantom Tempus และคอลเล็กชั่น Landspeed Black Badge Wraith และ Black Badge Dawn บริษัทฯ ได้ส่งสัญญาณบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำการรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษ (Coachbuilding) ร่วมสมัยรูปแบบใหม่ โดยแผนก Rolls-Royce Coachbuild จะกลายเป็นอีกหนึ่งการบริการถาวรของบริษัทในอนาคต และด้วยการเผยโฉมของยนตรกรรม Boat Tail ผลงานชิ้นเอกล่าสุดจากการรังสรรค์ตัวถังรถแบบ
สั่งทำพิเศษ

โรลส์-รอยซ์ยังได้ประกาศเปิดตัว Spectre รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกของบริษัทฯ ในปีพ.ศ. 2564
ภารกิจอันน่าทึ่งในการนำ Spectre ออกสู่ตลาดภายในไตรมาสที่ 4 ของปีพ.ศ. 2566 ได้เริ่มขึ้นแล้ว และโปรแกรมการทดสอบรถยนต์ที่มีความท้าทายมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับโรลส์-รอยซ์ก็ได้เริ่มต้นขึ้นเช่นกัน การทดสอบนี้จะมีระยะทางทั้งหมด 2.5 ล้านกิโลเมตรซึ่งครอบคลุมทั่วทั่งสี่มุมโลกซึ่งจะเป็นการจำลองการใช้งานยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ที่มากกว่า 400 ปี

ในขณะที่มีการเตรียมการสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบในอนาคตของแบรนด์ Rolls-Royce ยังคงตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับยนตรกรรมรุ่นปัจจุบันผ่านกระบวนการผลิตที่มีความยืดหยุ่นและการทำงานอย่างทุ่มเทของพนักงานกว่า 2,000 คนที่ทำงานที่ Home of Rolls-Royce ที่กู้ดวูดในมณฑลเวสต์
ซัสเซกสและทั่วโลก โรงงานผลิตยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ที่กู้ดวูดกำลังทำงานเกือบเต็มขีดความสามารถ โดยแบ่งเวลาการทำงานเป็นสองกะเพื่อรองรับคำสั่งซื้อยนตรกรรมจากลูกค้าทั่วโลก

โรลส์-รอยซ์ยังคงลงทุนในโรงงานผลิตเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และทุ่มเท ในด้านการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในอนาคตของบริษัทฯ ด้วยสถิติยอดจำนวนผู้ฝึกงานใหม่ที่ 37 คนที่จะร่วมงานกับบริษัทฯ ในเดือนกันยายนนี้

Torsten Müller-Ötvös กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า “นี่เป็นปีแห่งประวัติศาสตร์อย่างแท้จริงสำหรับ Rolls-Royce Motor Cars โดยภายใน 12 เดือน เราได้สร้างสถิติยอดจำหน่ายประจำปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และทำการเปิดตัวยนตรกรรมใหม่ล่าสุดในตระกูล Black Badge รวมถึงทำให้โลกตกตะลึงด้วยความสามารถในการรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษ และความก้าวหน้าครั้งสำคัญของการไปสู่การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบของเราในอนาคต

ดังเช่นที่เคยเป็นมาโดยตลอด ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการทำงานอย่างทุ่มเทและมุ่งมั่นของทีมบุคลากรอันน่าทึ่งที่ Home of Rolls-Royce รวมถึงทีมงานในต่างประเทศและเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วโลกของเรา

ผมขอขอบคุณและขอแสดงความยินดีกับพวกเขาทุกคน นับว่าเป็นเกียรติและเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมทำงานเคียงข้างพวกเขาในทุก ๆ วัน”

Visitors: 1,504,566