“ยามาฮ่า” คว้าแชมป์ ซูซูก้า 2 สมัยซ้อน ตามเป้าปั้นนักบิดไทยสู่ระดับโลก
ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ตอกย้ำความสำเร็จในศึกมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก หลังประกาศศักดาคว้าแชมป์ ซูซูก้า 4 ชั่วโมง เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน จากผลงานของ “ตี” อนุภาพ ซามูล และ “ต๋ง” พีรพงศ์ บุญเลิศ และทีมช่างชาวไทย พร้อมทำสถิติเป็นทีมแรกในรอบ 41 ปี ที่รักษาแชมป์รายการแข่งทรหดสุดโหดนี้ ชี้เดินตามแผนยกระดับมอเตอร์สปอร์ตไทย เพื่อปั้นคนไทยสู่การแข่งขันระดับโลก
เมื่อวันอังคารที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จัดงานแถลงข่าวความสำเร็จในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับนานาชาติ รายการ ซูซูก้า 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ โร้ด เรซซิ่ง 2018 หลังจากที่ยอดทีมแข่งไทยอย่าง “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม” สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแข่งทีมแกที่รักษาแชมป์ได้ในรอบ 41 ปี ของรายการนี้
โดยทัพนักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เจ้าของแชมป์ปีที่ผ่านมา เดินทางไปป้องกันแชมป์อีกครั้งในปีนี้ ประกอบด้วย “ตี” อนุภาพ ซามูล, “ต๋ง” พีรพงศ์ บุญเลิศ และ “เบิร์ด” ประวัติ ญานวุฒิ ในฐานะโค้ช และนักบิดสำรอง ภายใต้รถแข่ง ยามาฮ่า YZF-R6 หมายเลข 99
โดยทั้ง อนุภาพ และ พีรพงศ์ รวมถึงทีมช่างชาวไทย ร่วมกันสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ด้วยการออกสตาร์ทจากตำแหน่งโพลโพซิชั่น ก่อนจะทิ้งห่างคู่แข่งกว่า 2 รอบสนาม คว้าแชมป์ ซูซูก้า เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง ไปครอง 2 ปีติดต่อกันอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่สนามซูซูก้า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น
ผลงานในปีนี้นับเป็นอีกครั้งที่ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย โดยการแข่งขันรายการ ซูซูก้า 4 ชั่วโมง เอ้นดูรานซ์ โร้ด เรซ ถือเป็นหนึ่งในรายการเอ็นดูรานซ์ระดับชั้นนำของเอเชีย และนี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของคนไทย
นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ และสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด บอสใหญ่ของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม เปิดเผยว่า “ต้องยกเครดิตให้กับทุกคนภายในทีม ทั้งนักบิดอย่าง อนุภาพ และพีรพงศ์ รวมถึงทีมช่างที่ทำงานอย่างหนักตลอด นี่คือการประกาศว่าเราคือเบอร์หนึ่งของเอเชียอย่างแท้จริง”
ด้าน นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ ถือเป็นการเดินตามแผนงานมอเตอร์สปอร์ตของเรา ซึ่งถูกวางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ เราต้องการให้โครงสร้างมอเตอร์สปอร์ตของ ยามาฮ่า นั้นแข็งแกร่งทุกระดับทั้งในประเทศ ระดับทวีปเอเชีย ระดับนานาชาติ และเป้าหมายต่อไปคือระดับโลกที่เรากำลังมีงานท้าทายอยู่เช่นกัน”
“นอกจากนี้ เรายังมีโครงการ ยามาฮ่า โมโต ชาเลนจ์ เพื่อเฟ้นหาดาวรุ่ง และบุคลากรจากสถาบันอาชีะทั่วประเทศมาประดับวงการมอเตอร์สปอร์ต เรามีทีมแข่งชั้นนำในรายการชิงแชมป์ประเทศไทย เรากำลังลุ้นแชมป์ระดับทวีปในรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ชัดเจนของเรา”
นอกจากนี้ นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “และที่สำคัญในความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่กับการรักษาแชมป์ในรายการ ซูซูก้า 4 ชั่วโมงนั้น ถือเป็นบทพิสูจน์แล้วว่าเรายกระดับทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ขึ้นเทียบเท่าทีมระดับนานาชาติ และนอกจากนี้จากผลงานที่โดดเด่นแล้ว นักแข่งของเราอย่าง อนุภาพ ก็ถูกทาบทามให้ร่วมแข่งขันในศึก ออลเจแปน ซูเปอร์ไบค์ รุ่น เจเอสบี 1000 กับสังกัด ยามาลู้บ เรซซิ่งทีม ด้วย ซึ่งถือเป็นการการันตีฝีมือของนักบิดที่เป็นผลผลิตของ ยามาฮ่า ประเทศไทยได้เป็นอย่างดี”
