ทีมแข่ง TAG Heuer Porsche Formula E ตั้งเป้าเก็บคะแนนด้วยอันดับสูงสุดในการแข่งขันที่จาการ์ตา

เดินทางมาถึงครึ่งหลังของฤดูกาลเป็นที่เรียบร้อย ผ่านบรรยากาศการแข่งขันที่หลากหลายในโมนาโคทีมงานและนักแข่งกำลังอยู่ ระหว่างการเตรียมตัวเพื่อเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมสุดขั้วในการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าทางเรียบ รายการ Jakarta E-Prix ท่ามกลางอุณหภูมิอากาศสุดร้อนแรงแตะระดับ 35 องศาเซลเซียสและความชื้นสูงโอกาสที่จะต้องพบกับพายุฝน คือปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา ในขณะที่ทุกคนต่างคาดหวังว่า ในช่วงเวลาของการฝึกซ้อมและรอบการจัดอันดับจะเป็นไปอย่างราบรื่น รถแข่งจะวิ่งบนสนามที่แห้งรวมถึงหวังว่าการที่ฝนตกหนักและพายุฟ้าคะนองจะไม่ส่งผลกระทบกับการแข่งขันในช่วงบ่าย

หลังเสร็จสิ้นการเฉลิมฉลองชัยชนะทั้ง3ครั้งของฤดูกาลปัจจุบันซึ่งนับเป็นผลงานที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นทีมแข่งTAG Heuer Porsche Formula E มุ่งหน้าต่อไปยังสนามที่10และ11เตรียมพร้อมเข้าร่วมการแข่งขันบนสนามJakarta International E-Prix Circuit ในส่วนของทีมแข่งอิสระของปอร์เช่Avalanche Andretti ยืนยันส่งรถแข่งปอร์เช่99X Electricลงสนาม 2 คันด้วยการผนึกกำลังของJake Dennis (สหราชอาณาจักร)David Beckmann(ประเทศเยอรมนี) นักขับทดสอบและreserve driverของทีมTAG Heuer Porsche Formula E และAvalanche Andretti ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันFormula E เป็นครั้งแรกรับหน้าที่ขับแทนนักแข่งหลักAndré Lotterer (ประเทศเยอรมนี)ผู้ซึ่งติดภาระกิจทดสอบรถในการแข่งขันLe Mans 24 ชั่วโมง(10-11 มิถุนายน) ร่วมกับทีมแข่งPorsche Penske Motorsport ในช่วงเวลาเดียวกันกับการแข่งขันที่จาการ์ตา  

ก่อนการแข่งขัน Formula E ในเมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซียจะเริ่มต้นขึ้นทีมแข่งTAG Heuer Porsche Formula E รั้งอันดับที่ 2 ในตารางคะแนนประเภททีมโดยสะสมได้รวม169คะแนนตามหลังทีมEnvision Racing (182คะแนน)ส่วนทีมAvalanche Andretti (119) อยู่ในอันดับ4  สำหรับตารางอันดับประเภทนักแข่งPascal Wehrlein ยังคงเหนียวแน่นอยู่ในอันดับ 2ด้วยคะแนนสะสม101คะแนนตามหลังผู้นำNick Cassidy (ประเทศนิวซีแลนด์121คะแนน) ตามมาด้วยอันดับ3Jake Dennis (96คะแนน)สำหรับAntónio Félix da Costa (68คะแนน)อยู่ในอันดับที่6และAndré Lotterer (23คะแนน)อยู่ในอันดับที่13

Q&Aการแข่งขันรายการJakarta E-Prix

Florian Modlingerผู้อำนวยการแผนกFactory Motorsport Formula E

การต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งแชมป์ในรายการFormula Eกำลังทวีความดุเดือดยิ่งขึ้นเมื่อเดินทางมาถึงครึ่งฤดูกาลหลังคุณมีมุมมองอย่างไรกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในกรุงจาการ์ตา?

“ทีมในระดับหัวแถวมีความแตกต่างกันน้อยมากในการลุ้นแชมป์แต่ละทีมล้วนทุ่มสรรพกำลังอย่างเต็มพิกัดโดยเฉือนกันเพียงแค่ 1 ใน 10 ของวินาทีจาการ์ตาจะเป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ของเราเราจะผสมผสานสิ่งต่างๆที่ได้เรียนรู้มาจาก 9 สนามแรกของฤดูกาลและประยุกต์ใช้องค์ความรู้เหล่านั้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในรายการE-Prixเมื่อปีที่แล้วเรามีการปรับตัวได้ดีเยี่ยมยามที่ต้องรับมือกับสถานการณ์ที่สุดขั้ว”

หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลอย่างสวยงามด้วยชัยชนะสามรายการคุณพลาดในการขึ้นสู่อันดับสูงสุดที่โมนาโคทีมงานและนักแข่งมีวิธีการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร?

“ตำแหน่งแชมเปี้ยนยังไม่สามารถตัดสินได้ในขณะนี้ยังมีการแข่งขันอีก 7 สนามข้างหน้าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแน่นอนว่าเราคาดหวังกับผลการแข่งที่ดีกว่านี้ในโมนาโคแต่ตอนนี้เราต้องพุ่งเป้าไปที่การแข่งขันที่เหลืออยู่ในฤดูกาลและเราจะทำงานกันอย่างหนักต่อไปโดยไม่หยุดหย่อนเพื่อคว้าแชมป์มาครอบครองให้ได้ทั้งในประเภททีมและประเภทนักแข่งเราหวังว่าจะยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้นในการแข่งที่จาการ์ตารวมทั้งกลับบ้านด้วยคะแนนสะสมที่มากขึ้นอีกครั้ง”

António Félix da Costa นักแข่งสังกัดทีมโรงงานปอร์เช่(รถแข่งหมายเลข13)

เมื่อปีที่แล้วคุณเริ่มต้นการแข่งขันสนามแรกในจาการ์ตาด้วยการออกสตาร์ทแถวแรกในกริดอะไรคือความทรงจำที่คุณมีต่อประเทศนี้และการแข่งขันในสนามนี้?

“ถึงแม้ผมจะพลาดการได้ขึ้นโพเดี้ยมจากผลงานอันดับ4แต่ที่นี่สร้างความทรงจำที่ดีมากมายบรรดาผู้ชมต่างให้การต้อนรับการแข่งขันFormula Eและความสนใจของพวกเขาก่อให้เกิดบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมสนามนี้เป็นเส้นทางแบบmedium high-speed trackและมีการยึดเกาะที่ดีหลังจากการแข่งขันในโมนาโคเราแทบจะรอไม่ไหวกับการพยายามขยับอันดับของเราให้อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์อีกครั้งที่จาการ์ตาอากาศที่ร้อนและความชื้นสูงจะสร้างความกดดันให้แก่ร่างกายของคุณแบบสุดๆแต่เราได้รับการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีเพื่อรับมือกับการแข่งขันในลักษณะนี้”

เพราะเหตุใดคุณจึงไม่สามารถรักษาตำแหน่งที่ดีในการแข่งขันเอาไว้ได้หลังการจัดอันดับ?

“เรามีรถแข่งที่รวดเร็วแต่ไม่สามารถใช้ความได้เปรียบดังกล่าวในรอบจัดอันดับถึงตอนนี้เรารู้ว่ามีงานอะไรต้องทำต่อมันมีก้าวเล็กๆเท่านั้นที่เราต้องข้ามไปให้ได้เราไม่จำเป็นต้องพยายามสร้างสรรค์สิ่งใดขึ้นมาใหม่หากเพียงเราสามารถทำผลงานในรอบจัดอันดับได้ที่8หรือ10คันแรกสิ่งนั้นจะช่วยให้งานของเราง่ายขึ้นอีกเยอะนั่นคือสิ่งที่เราต้องการทำให้สำเร็จที่จาการ์ตา”

Pascal Wehrlein นักแข่งสังกัดทีมโรงงานปอร์เช่(รถแข่งหมายเลข94)

ในจาการ์ตาคุณจะต้องเตรียมพร้อมกับการลงแข่งถึง 2 สนามภายใต้สภาวะที่สุดขั้วอะไรคือสิ่งที่คุณคาดหวัง?

“มันจะเป็นสุดสัปดาห์ที่ร้อนแรงในทุกช่วงเวลาเมื่อปีที่แล้วเราปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ได้ดีซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อตัวนักแข่งและทีมงานแต่ยังรวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือโดยเฉพาะยางรถยนต์หลังจากสนามโมนาโคเราต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสำหรับการลงแข่งทั้ง 2 สนามที่จาการ์ตาสิ่งที่เราทำอาจจะยังได้ไม่ดีนักในสนามที่ผ่านมาถึงตอนนี้เราพร้อมกลับมาสู้ต่อ”

การสูญเสียตำแหน่งผู้นำบนตารางอันดับในโมนาโคส่งผลต่อคุณมากน้อยเพียงใด?

“ไม่มากเท่าไหร่ยังมีอีกหลายสนามรอเราอยู่โมนาโคเป็นแค่หนึ่งในการแข่งขันที่เกิดขึ้นช่วงกลางฤดูกาลในFormula E ทุกสนามล้วนแต่เป็นการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดอย่างที่รู้กันดีคะแนนสะสมหลังจบสนามสุดท้ายคือตัวตัดสินเราออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมแต่ไม่สามารถเก็บคะแนนได้ตามที่ต้องการในสนามล่าสุดถึงตอนนี้ด้วยศักยภาพของทีมงานและรถแข่งเราสามารถพลิกสถานการณ์ทุกอย่างให้กลับมาได้อย่างรวดเร็วในจาการ์ตาเรามีโอกาสถึง 2 ครั้งที่จะทำแบบนั้น”

เกี่ยวกับสนามแข่งขัน

สนามJakarta International E-Prix Circuitไม่ได้เป็นแค่street circuitทั่วไปสนามแห่งนี้มีทำเลที่ตั้งอยู่ในจังหวัดAncol ใกล้กับJakarta Bayซึ่งมีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นสนามแข่งรถแบบถาวร  สำหรับcircuitที่ใช้ในปัจจุบันได้รับการสร้างขึ้นเมื่อปี 2565 ด้วยระยะทางเพียง2.37กิโลเมตรแต่ประกอบด้วยทางโค้งถึง18  โค้งทางตรงผ่านเส้นสตาร์ทของสนามแห่งนี้คือหนึ่งในทางตรงที่ยาวที่สุดของปฎิทินการแข่งขันรายการFormula E

การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต

กำหนดการออกอากาศการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการFormula Eจากจาการ์ตาสามารถติดตามได้จาก: https://www.fiaformulae.com/watch/ways-to-watch

บริการข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน

ภาพถ่ายชุดแรกจากจาการ์ตาจะพร้อมเผยแพร่ในฐานข้อมูลPorsche press databaseในวันที่2มิถุนายนรายงานการแข่งขันจะตามมาในวันที่3 มิถุนายน(สนามที่10)และวันที่4 มิถุนายน (สนามที่11)ข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับทีมแข่งTAG Heuer Porsche Formula E จะได้รับการเผยแพร่ผ่านTwitter channel @PorscheFormulaEข้อมูลอื่นๆของทีมงานนักแข่งและรายการแข่งขันสามารถค้นหาได้จากPorsche Formula E Media Guidehttps://media.porsche.com/formula-eโดยเนื้อหาจะได้รับการปรับปรุงและเพิ่มเติมสื่อประชาสัมพันธ์ตลอดฤดูกาลแข่งขัน

รถแข่งPorsche 99X Electric

ปอร์เช่เข้าร่วมการแข่งขันฤดูกาลที่9ของรายการABB FIA Formula E World Championshipด้วยรถแข่งปอร์เช่99X Electricภายใต้ระบบขับเคลื่อนและแพลทฟอร์มของสายการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีชื่อว่าPorsche E Performanceรถแข่งพลังงานไฟฟ้าเจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากศูนย์วิจัยพัฒนาWeissachด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนหัวใจหลักที่พบเจอได้ในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรกจากปอร์เช่ระบบบริหารจัดการพลังงานที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จในโครงการFormula Eและการพัฒนารถยนต์ในสายการผลิตปกติรถแข่งปอร์เช่99X Electricให้พละกำลังสูงสุด476แรงม้า  (350กิโลวัตต์)เพิ่มขึ้นมากกว่า100กิโลวัตต์เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า (Generation ที่2)พลังงานที่ใช้อย่างน้อย40เปอร์เซ็นต์ได้รับจากระบบregenerative braking  รถแข่งรุ่นใหม่มีความเร็วสูงสุดน้ำหนักเบาที่สุดรวมทั้งยังทรงพลังและมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

รถsafety carปอร์เช่ไทคานน์เทอร์โบเอส(Taycan Turbo S)  

ปอร์เช่มีพันธกิจด้านความปลอดภัยร่วมกับFormula E:บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นนำสัญชาติเยอรมนีสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าในสายการผลิตปกติไทคานน์เทอร์โบเอส(Taycan Turbo S)ทำหน้าที่เป็นofficial safety carประจำฤดูกาลแข่งขันนี้นับเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของFormula Eที่มีต่อแผนกมอเตอร์สปอร์ตของปอร์เช่ต้องยกประโยชน์ให้สมรรถนะการขับขี่และความปลอดภัยรวมทั้งพละกำลังสูงสุดกว่า761แรงม้า(560กิโลวัตต์)รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันแรกของปอร์เช่คือตัวเลือกอันสมบูรณ์แบบสำหรับการทำหน้าที่safety carในการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าชิงแชมป์โลกรายการแรกและรายการเดียวด้วยระบบLaunch Control ปอร์เช่ไทคานน์(Porsche Taycan)รุ่นเรือธงให้อัตราเร่งจาก0 ถึง100กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในระยะเวลาเพียง2.8วินาทีและทำความเร็วสูงสุดได้ถึง260กิโลเมตรต่อชั่วโมงงานสีตัวถังระดับสุดยอดที่มีเฉดสีครบถ้วนทั้ง 11 สีตามจำนวนทีมที่ลงแข่งในFormula Eงานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูงแห่งอนาคตรวมทั้งคุณค่าที่ถ่ายทอดให้กับสังคมอาทิความแตกต่างหลากหลายและความร่วมแรงร่วมใจ

รายการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าFormula E

Formula Eคือรายการทัวร์นาเม้นท์แข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายการแรกของโลกนำพาความตื่นเต้นเร้าใจของกีฬาความเร็วไปสู่ผู้ชมในเมืองใหญ่ทั่วโลกตั้งแต่ปี2014เป็นรายการกีฬาความเร็วที่ส่งเสริมความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมยานยนต์และเทคโนโลยีสะอาดเพื่อความยั่งยืนสร้างการรับรู้ยอมรับและเข้าใจยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าให้แก่สาธารณะชนทั่วโลกโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหามลภาวะโลกร้อนFormula Eฤดูกาล2022/2023มีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ส่งรถแข่งลงสนามเป็นจำนวน11ทีม22 นักแข่งนับเป็นเครื่องยืนยันถึงความน่าสนใจและความร้อนแรงของรายการนี้ทีมแข่งTAG Heuer Porsche Formula Eส่งรถแข่งPorsche 99X Electricเข้าร่วมประลองความเร็วเป็นฤดูกาลที่4


Visitors: 1,498,762