เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส ฉลองยอดไตรมาสสุดท้าย พร้อมเปิดรับจอง The New Continental GT Convertible ส่งท้ายปี 2561 ต้อนรับปี 2562

เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้แทนจัดจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในเมืองไทย ฉลองยอดจองไตรมาสที่สี่ส่งท้ายปี 2561 พร้อมเปิดรับจองรถยนต์ที่สุดของแกรนด์ทั่วริ่ง เปิดประทุนตระกูล Continental GT กับ The New Continental GT Convertible ซึ่งโควต้าในประเทศไทยมีเพียง 2 คันเท่านั้น พร้อมเน้นการตลาดต่อเนื่องในปี 2562

คุณเดวิด แจ็คสัน กรรมการผู้จัดการ เบนท์ลีย์ แบงค็อก อดีต Regional Manager Asia Pacific, Bentley Motors สรุปภาพรวมการตอบรับของเบนท์ลีย์ไว้ว่า ในไตรมาสที่สี่นั้นเป็นไปได้สวยงาม โดย Continental GT W12 ถือได้ว่าเป็นรุ่นธงที่ทำยอดได้มากที่สุดของproduct lineของเบนท์ลีย์

นอกจากนั้นเรายังผลักดันโควต้าของ The New Continental GT Convertible ในประเทศไทย ที่ลิมิเต็ด เป็นจำนวน 2 คันเท่านั้น The New Continental GT Convertible ที่เป็นรถที่มีดีไซน์ที่โดดเด่น สง่างาม เชื่อว่าทุกคนเมื่อได้เห็นภาพ จากการเปิดตัวที่กรุง ซิดนีย์ที่ผ่านมาพบกว่าดีไซน์นั้นเป็นความลงตัวที่ละสายตาไม่ได้ ทั้งภายนอและภายใน อีกทั้ง ยังรุ่นนี้มาพร้อมกับพละกำลัง ที่เหนือชั้น กับเครื่องยนต์ W12 ที่อัดแรงม้าได้ถึง 635 แรงม้า และน้ำหนักของรถที่เบาลง 20 % และรวมระยะเวลาในการเปิดประทุนเพียง 19 วินาที ที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เชื่อได้ว่า การเปิดตัวของ The New Continetal GT Convertible ในไตรมาสแรกของปี 2562 จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีเหมือนกับที่ The New Continental GT Convertible W12 ทำไว้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ในปีหน้าเรายังเน้นกิจกรรมการตลาดในการเพิ่ม Extraordinary Driving experience ในทุกๆ segment ลูกค้าที่สนใจในกิจกรรมขับรถ ในลักษณะต่างๆทั้ง on-road, off road และ on track จะได้มีโอกาสได้ทดลองขับ ทั้ง GT และ เอสยูวี อย่าง Bentayga V8 Petrol ซึ่งเป็นรถเอสยูวีที่หากได้มีโอกาสได้ทดลองขับแล้วจะ พบกับความประทับใจใหม่ของ ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V8 ที่มีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างพละกำลังและความนุ่มนวล คือเอกลักษณ์ที่แตกต่างและหาตัวจับได้ยากของ Bentayga V8 เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด Luxury SUV ทีเดียว ” คุณเดวิด กล่าวทิ้งท้าย

The New Continental GT Convertible
The New Continental GT Convertible เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ กรุงซิดนีย์เมื่อเดือนธันวาคม2561 ที่ผ่านมาโดยมีดีโซน์ที่โดเด่นและพร้อมไปด้วยศักยภาพและพละกำลังที่เต็มเปี่ยม ด้วนน้ำหนักที่เบาลงถึง20%

เดอะ นิว คอน ติเนนทัล จีที คอนเวอร์ติเบิล ( The New Continental GT Convertible) ใหม่ล่าสุดคือรถยนต์ที่เสมือนเป็นตัวแทนของการผสมผสานกันระหว่างรถเปิด ประทุนที่หรูหราเข้าไว้กับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ทรงพลังได้อย่างลง ตัว โดยเครื่องยนต์ ความจุ 6.0 ลิตร W12 มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 635 แรงม้า ระบบส่งกำลังเครื่องยนต์มีอัตราการทดเกียร์อยู่ที่ 8 สปีด ระบบช่วงล่างได้รับการพัฒนาให้มีการยกระดับให้สูงและต่ำลงได้ ระบบพวงมาลัยมีความแม่นยำส่งผลให้รถมีอัตราการเร่งเครื่องยนต์ที่โดดเด่น การขับเคลื่อนและการรักษาเสถียรภาพของรถสามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้รถมีความสะดวกสบายสูงสุด ระบบขับเคลื่อนออกมาในรูปแบบระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถมีสมรรถนะในการเกาะถนนได้อย่างดี และมีพละกำลังเครื่องยนต์ที่ถูกส่งออกมาสู่ทุกๆ สภาวะของท้องถนนได้อย่างเต็มพิกัดอีกด้วย โดยทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 333 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 3.8 แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 900 นิวตันเมตร รักษาระดับแรงบิดนี้ไว้ได้จนถึง 4,500 รอบต่อนาทีเลยทีเดียว เหมาะสมกับความเป็นที่สุดในรุ่นคอนติเนนทัลของเบนท์ลี่ย์ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังผสมผสานไว้ทั้งงานหัตถกรรมชั้นเยี่ยม หรูหรา และมีพละกำลังเครื่องยนต์และประสิทธิภาพเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นกว่าใคร

งานออกแบบตกแต่งภายในห้องโดยสารของ The New Continental GT Convertible ได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยความพิเศษสุด เพื่อให้ได้มาซึ่งบรรยากาศอันหรูหราร่วมสมัย ความประณีตบรรจงใส่ในทุกรายละเอียดอย่างที่ไม่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใดเทียบเคียงได้ คือประสบการณ์ที่ผู้ครอบครองยนตกรรม Bentley เท่านั้นที่มีโอกาสได้สัมผัส การประสานอันสุดแสนลงตัวของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัยมากมาย เป็นหนึ่งเดียวกับชิ้นงานตกแต่งจากวัสดุธรรมชาติคุณภาพอันดับหนึ่ง ผ่านการขัดเกลาและติดตั้งอย่างสวยงามด้วยทักษะฝีมือของบุคลากรระดับปรมาจารย์ แสดงออกถึงความกลมกล่อมที่มาพร้อมความหรูหราและเปี่ยมอรรถะประโยชน์ในทุกอณูบ่งบอกถึงความล้ำหน้าและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจาก Bentley ภายในประกอบด้วยอุปกรณ์สุดล้ำ Driver-focused instrument panel แผงหน้าปัทม์ดิจิตอลเต็มรูปแบบ และ Bentley Rotating Dispaly หน้าจอแสดงผลสำหรับการสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ขับขี่ด้วยนวัตกรรมแห่งอนาคต ความคมชัดจากหน้าจอระบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง พร้อมปรับเปลี่ยนได้ถึงสามรูปแบบ สามารถปิดหน้าจอด้วยแผงลายไม้แท้กลมกลืนเรียบเนียนหรือเติมแต่งความสวยหรูมีระดับด้วยชุดเกจย์วัดทรงกลมแบบเข็มสามช่องสไตล์คลาสสิก

คันนี้มาพร้อมกับ อัลลอยด์ 22 นิ้วที่ลาย Five Tri spoke ที่โดดเด่น อีกทั้ง ภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยงานฝีมือชั้นเยี่ยม และมีจุดเด่นด้วยการติดตั้งชุดแต่ง Mulliner Driving Specification มาเป็นอุปกรณ์ตกแต่งมาตรฐานให้กับรถ เสริมความเป็นเอกลักษณ์ของความหรูหราที่ร่วมสมัยเข้าไว้กับความ
สปอร์ต ที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว อีกทั้งหลังคาผ้าใบที่มีให้เลือกแบบถึง 7 สี 7 แบบ และทำเวลาการเปิดประทุนที่ 19 วินาที ณ การเคลื่อนตัวที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย

Bentayga V8 Petrol
Bentayga V8 ใหม่ คือขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V8 บล๊อกล่าสุด ขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร 32 วาล์ว เสริมด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์คู่แบบ dual twin-scroll ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางระหว่างฝาสูบเครื่องยนต์รูปตัว ‘V’ สร้างสรรค์พละกำลังสูงสุด 550 แรงม้า (542 bhp) พร้อมแรงบิดมหาศาลกว่า 770 Nm (568 lb.ft.) ทะยานทะลุความเร็วสูงสุดถึง 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (180 mph) ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลา 4.5 วินาที (0-60 mph ภายในระยะเวลา 4.4 วินาที)

แม้ว่าจะมีสมรรถนะเหนือระดับยิ่งกว่า Bentayga V8 ยังคงความเป็นเลิศด้วยพิสัยการเดินทางสูงสุดเป็นระยะทางกว่า 746 กิโลเมตร (464 ไมล์) ปล่อยไอเสีย CO2 เพียง 260 กรัมต่อกิโลเมตร เท่านั้น ประสิทธิภาพการทำงานที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเหลือเชื่อ (อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 24.8 mpg หรือ 11.4 ลิตร/100 กิโลเมตร) คือผลลัพธ์ที่ได้จากการปฎิบัติงานของระบบควบคุมเครื่องยนต์อัจฉริยะ ซึ่งสามารถตัดการทำงานของเครื่องยนต์ลงถึงสี่กระบอกสูบจากทั้งหมดแปดกระบอกสูบ โดยขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่ที่เหมาะสมในขณะนั้น ทั้งนี้ฟังก์ชั่นดังกล่าวไม่ได้ลดทอนสมรรถนะของเครื่องยนต์ลงแม้แต่น้อย รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับควบคุมใดๆทั้งสิ้น กระบวนการทำงานที่เกิดขึ้นอาศัยเวลาเพียง 20 มิลลิวินาทีเท่านั้น

เสริมด้วยเทคโนโลยี Stop-Start ซึ่งทำหน้าที่ตัดการทำงานเมื่อขับขี่ในสภาวะ ‘near-to-stop’ หรือลดความเร็วจนใกล้หยุดนิ่ง อันมีส่วนช่วยลดอัตราการปล่อยไอเสียได้เช่นเดียวกัน

ส่วนผสมสุดแสนลงตัวระหว่างพละกำลังและความนุ่มนวล คือเอกลักษณ์ที่แตกต่างและหาตัวจับได้ยากของ Bentayga V8 เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับคู่แข่งส่วนตลาด Luxury SUV

Bentayga V8 ติดตั้งระบบ Bentley Dynamic Ride – เทคโนโลยีล่าสุดครั้งแรกของโลก ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวด้วยอิเลกทรอนิกส์ 48 โวลต์ ทำหน้าที่ตรวจจับและชดเชยแรงกระทำต่อตัวรถในแนวราบเมื่อขับขี่เข้าโค้งเพื่อสร้างความมั่นใจว่าหน้าสัมผัสของยางจะแนบสนิทกับพื้นถนนอย่างเต็มที่ในทุกสภาวะการณ์ ส่งผลต่อความนุ่มนวล มั่นคง ที่รู้สึกได้ภายในห้องโดยสาร เสริมประสิทธิภาพการขับขี่และบังคับควบคุมที่แม่นยำ เฉียบคม เหนือระดับยิ่งกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน

ระบบ Bentley adaptive และ reactive รับบทบาทในการแปรผันแรงบิดที่เกิดขึ้นกับช่วงล่างและตัวถัง ผลลัพธ์คือ ศักยภาพในการขับขี่สไตล์สปอร์ตและความนุ่มนวลสะดวกสบายที่สามารถรองรับการใช้งานสารพัดรูปแบบ ต้นแบบระบบอิเลกทรอนิกส์แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ ให้การทำงานที่ราบเรียบ เงียบสนิท และมีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็วฉับไว พร้อมบุกตะลุยในทุกสภาพเส้นทางที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า

Bentayga V8 ส่งมอบความนุ่มนวลสะดวกสบายสูงสุดทั้งในแง่ของการขับขี่และการโดยสาร พวงมาลัยให้สัมผัสที่ว่องไว กระฉับกระเฉงและบังคับควบคุมได้อย่างเชื่องมือ ต้องยกคุณงามความดีให้กับระบบช่วงล่างและระบบควบคุมการทรงตัว Electronic Stability Control (ESC) ชั้นเลิศ ผสานการทำงานกับระบบ Multi-mode Traction Control (TCS) ยิ่งไปกว่านั้น Bentayga ยังได้รับการติดตั้งระบบช่วยเหลือเมื่อขับขี่บนทางลาดชัน Hill Descent Control อีกด้วย

ระบบช่วยเหลือการขับขี่อันเป็นศาสตร์แห่งศิลปรวมทั้งการออกแบบดีไซน์ฟังก์ชั่นแสดงข้อมูลอย่างชัดเจน เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบายและอรรถะประโยชน์ล้นเหลือ ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทำให้ Bentayga V8 คือยนตกรรมสปอร์ต SUV สุดหรูหรา ที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยียานยนต์ล้ำอนาคต

ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC) ซึ่งรวมเอาฟังก์ชั่นตัดการทำงานของเครื่องยนต์ Stop & Go ระบบ Predictive ACC และระบบ Traffic Assist ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าและรักษาระยะห่างระหว่างรถยนต์คันหน้าได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ระบบ Predictive ACC จะอาศัยข้อมูลจากระบบนำทางผ่านดาวเทียม navigation เซนเซอร์ตรวจจับสัญญาณ และกล้องจับภาพ เพื่อคาดหมายสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่กำลังขับขี่เข้าใกล้ทางแยก พื้นที่ในเขตเมือง และเส้นทางที่จำกัดความเร็ว ระบบจะรับหน้าที่ปรับเปลี่ยนความเร็วรถยนต์ให้สอดคล้องกับสภาพการจราจร ส่งผลดีต่อทั้งความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

ในสภาพจราจรของเขตเมืองใหญ่ระบบช่วยเหลือมากมายจะรับบทบาทในการทำงานร่วมกับผู้ขับขี่ Bentayga V8 อาทิ ระบบ Traffic Sign Recognition ตรวจจับป้ายสัญญาณจราจรที่แตกต่างกัน พร้อมแสดงข้อมูลมายังผู้ขับขี่; ระบบ Rear Crossing Traffic Warning ทำงานด้วยเทคโนโลยีเรดาห์ ตรวจสอบการจราจรในกรณีที่ถอยรถออกจากทางช่องจอดที่อับสายตา; การแสดงภาพด้านบนตัวถังแบบ Top View ผ่านระบบการประมวลผลด้วยกล้องถ่ายภาพสี่ตัว เพื่อถ่ายทอดสภาพแวดล้อมด้านนอกตัวรถมายังผู้ขับขี่

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ Park Assist ตรวจจับและแจ้งเตือนระยะถอยจอดอย่างเหมาะสม ปลอดภัย(แจ้งข้อมูลทั้งในกรณีถอยเข้าช่องจอด และถอยจอดเทียบข้าง) ก่อนที่ระบบพวงมาลัยอัตโนมัติจะเข้ามารับหน้าที่ควบคุมทิศทางในการจอดรถขั้นตอนต่อไป

นวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัยอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึง ระบบ Night Vision ซึ่งทำงานด้วยเทคโนโลยีลำแสง infra-red จำแนกแยกแยะประเภทของสิ่งกีดขวางด้านหน้าอย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีระบบแสดงผล Head-Up Display ลดการละสายตาของผู้ขับขี่จากเส้นทางตรงหน้าเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

Bentayga ติดตั้งหน้าจอ infotainment ระบบสัมผัส ความละเอียดสูง ขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อกับระบบนำทางผ่านดาวเทียมเวอร์ชั่นล่าสุด หน่วยความจำภายในขนาดความจุ 60GB และสามารถเลือกภาษาได้มากถึง 30 ภาษา ตำแหน่งเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลังสามารถสัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับได้อย่างอิสระผ่าน Bentley Entertainment Tablet – ด้วยหน้าจอขนาด10.2 นิ้ว ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทำงานด้วยระบบปฎิบัติการ Android พร้อมรับสัญญาณ 4G เชื่อมต่อสัญญาณ WiFi และ Bluetooth ย่อโลกแห่งการติดต่อสื่อสารความเร็วสูงมาไว้ในมือ

สำหรับ Bentayga V8 ลูกค้าสามารถเลือกระบบเครื่องเสียงที่แตกต่างกับได้ถึงสามระบบได้แก่: ระบบเครื่องเสียงมาตรฐาน Bentley Standard Audio ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง Bentley Signature Audio และระบบเครื่องเสียงสุดยอด Naim for Bentley Premium Audio ซึ่งให้พลังเสียงที่หนักแน่นที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน กำลังขับสูงสุดถึง 1,950 วัตต์ ถ่ายทอดเสียงดนตรีสุดสมจริงผ่านลำโพงคุณภาพชั้นเลิศรวม 18 ลำโพงและลำโพงเสียงแหลม super-tweeters เพื่อการเข้าถึงความถี่สูงสุด



ติดต่อขอข้อมูลและสำรองการทดสอบรถได้ที่ ได้ที่ Bentley Bangkok, บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวใน ประเทศไทย ที่โชว์รูม CTI Tower โทร. 02 261 1050 - 1 และที่โชว์รูม Siam Paragon โทร. 02 610 9880

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของทางเบนท์ลี่ย์ประเทศไทย ได้ที่เว็ปไซด์ http://bangkok.bentleymotors.com , www.facebook.com/bentleybangkok และ Instagram: bentley.bangkok

Visitors: 1,492,837