คันแรกในโลก “ETRAN PROM” รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทยเพื่อการบริการสาธารณะ

อีทราน (ไทยแลนด์) สตาร์ทอัพเลือดใหม่แห่งวงการยานยนต์ รุกเปิดตัวธุรกิจใหม่ ผู้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการขนส่งสาธารณะในทุกรูปแบบ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน ตั้งเป้าหมาย ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการขนส่งสาธารณะเพื่อความยั่งยืน ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด และมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย หวังจุดประกายทุกภาคส่วนให้หันมาใส่ใจเรื่องพลังงานสะอาด เพื่ออนาคตของประเทศ


เปิดตัว “ETRAN PROM” รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการบริการสาธารณะ คันแรกในโลก ซึ่งออกแบบและพัฒนาโดยทีมงานคนไทย ในเดือนเมษายน 2560 เจาะกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ที่มีกว่า 300,000 รายในประเทศ ด้วย Business Model รูปแบบใหม่ ให้เช่ารายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้ ชูจุดขาย ใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิมถึง 50% ด้วยดีไซน์รูปลักษณ์ใหม่ สะดวกสบายทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตอบสนองการใช้ชีวิตและการจราจรที่แออัดในเมืองหลวง พร้อมเผยข้อมูล Pain Point ที่สนใจ จากการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ และผู้โดยสารในกรุงเทพฯ ตลอดปีที่ผ่านมา

ปักหมุด เป็นสตาร์ทอัพ Hardware แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์รายแรกของไทย ที่ต้องการแก้ปัญหาด้านบริการขนส่งสาธารณะให้กับคนไทย มั่นใจ มีโอกาสทางการตลาดให้เติบโตอีกมาก ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 200 คัน และเติบโตเป็น 10,000 คัน ภายใน 3 ปี หวังครองมาร์เก็ตแชร์ 5% ของตลาดรถจักรยานยนต์ในเมือง พร้อมจับมือพันธมิตรทางธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชน ขยายสถานีแบตเตอรี่พลังงานไฟฟ้า กระจายทั่วกรุงเทพฯ ตามแนวรถไฟฟ้า ให้ได้ถึง 60 สถานีในปี 2560 เพื่อสนับสนุนการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้แพร่หลายมากขึ้น

นายสรณัญช์ ชูฉัตร ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า “จุดเริ่มต้นของอีทราน เราต้องการนำเสนอทางเลือกใหม่ของบริการขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้งาน ในขณะเดียวกัน ก็ต้องตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าในการใช้งานให้กับตลาดผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วย ทั้งนี้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อน (Global Warming) และการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ (Climate Change) ล้วนเป็นผลจากการกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งสาเหตุ 14% มาจากการขนส่งและการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างชัดเจนในอนาคต จึงเกิดแนวคิดเรื่องรถพลังงานไฟฟ้าขึ้นในโลกมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่ขาดการนำมาใช้อย่างจริงจัง ด้วยปัจจัยด้านความพร้อมของระบบโครงสร้างพื้นฐาน และราคาของส่วนประกอบสำคัญ เช่น แบตเตอรี่ หรือมอเตอร์ที่มีต้นทุนการผลิตที่สูง ทำให้ราคาขายสูงตาม จึงไม่เกิดความนิยมในการใช้งานอย่างแพร่หลายขึ้น

ที่มาดังกล่าว จึงเป็นแรงบันดาลใจในการก่อตั้งธุรกิจของอีทราน ที่ตั้งใจเข้ามาบุกเบิกธุรกิจการให้บริการขนส่งสาธารณะที่คำนึงถึงความยั่งยืน ทั้งด้านเศรษกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผลกระทบ เป็นสำคัญ โดยอีทรานเป็นบริษัทของคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพความพร้อมทั้งด้านบุคลากร นวัตกรรม และเงินทุน โดยปัจจุบันมีพนักงานจำนวน 10 คน ที่มีความรู้ความสามารถ รวมทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการออกแบบและผลิตยานพาหนะ ที่สำคัญทุกคนมีความมุ่งมั่น (Passion) ที่จะพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ทำให้สังคมดีขึ้น ด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์และแตกต่าง บริษัทฯ มีแผนลงทุนการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 10,000 คัน ภายใน 3 ปี โดยมีแผนในการพัฒนาธุรกิจ และมีแผนการระดมทุนเพิ่ม ตลอดจนการหาพันธมิตรองค์กรต่าง ๆ ร่วมอุดมการณ์ ซึ่งอีทรานพร้อมนำขีดความสามารถของเรา ผสานเข้ากับนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาและยกระดับบริการขนส่งสาธารณะเพื่อคนไทยแล้ววันนี้

ซึ่งจากการวิเคราะห์สภาพตลาด พบว่า มีการขนส่งประเภทหนึ่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้ใช้งานกลุ่มแรก ก็คือ รถจักรยานยนต์รับจ้าง หรือกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ด้วยขนาดของตลาดที่มีจำนวนกว่า 300,000 คันทั่วประเทศ และศักยภาพในการผลิตรถจักรยานยนต์ของประเทศไทย ที่สามารถพัฒนาส่งออกเป็นอันดับ 2 ของโลก มีต้นทุนที่เหมาะสม แต่ยังขาดนวัตกรรมที่จะยกระดับและพัฒนาการบริการ

อีทราน จึงเริ่มต้นพัฒนานวัตกรรมแรกเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการบริการสาธารณะให้เช่า ในชื่อ “ETRAN PROM” (อีทราน พร้อม) เจาะกลุ่มผู้ใช้งานในกรุงเทพฯเป็นที่แรก โดยเริ่มจากกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ และผู้ให้บริการขนส่งต่าง ๆ ซึ่งมีลักษณะการให้บริการแบบวิ่งเป็นรอบ (Route) ในบริเวณใกล้เคียง คอยรับ-ส่งเพื่อเชื่อมต่อการขนส่งภายในเมืองใหญ่ ถือเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างมาก ตอบสนองความต้องการในการขนส่งระยะสั้น (Micro-Interchange Solution) โดยชูเรื่องความคุ้มค่าในการใช้งานเป็นหลัก ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ใช้งาน ให้มีรายได้เหลือเงินเก็บในทุก ๆ เดือน เพิ่มขึ้นถึง 50% ควบคู่กับการติดตั้งและขยายสถานีแบตเตอรี่ (Battery Swapping Station) ทั่วกรุงเทพฯ ตามแนวรถไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานรถ ETARN PROM ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฟฟ้า พร้อมเปิดให้บริการปีนี้อย่างแน่นอน”

ETRAN PROM ได้รับการออกแบบภายนอก โดยมีแรงบันดาลใจจากความเป็นธรรมชาติ โดยคำนึงถึงการใช้งานสาธารณะเป็นสำคัญ โดยสะท้อนออกมาถึงลักษณะรูปทรง วัสดุ และการผลิต ในด้านของสมรรถนะ ETRAN PROM ใช้ ETRAN MOTOR ขนาด 5Kw ให้ความเร็วสูงสุดถึง 80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง แบตเตอรี่ชนิด LiFePO4 ซึ่งมีความปลอดภัย ขนาดความจุ 3Kwh ใช้งานได้ถึง 60 กิโลเมตร (ที่ความเร็วคงที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในด้านของอัตราการสิ้นเปลืองของการใช้ไฟฟ้า ETRAN PROM ใช้ไฟฟ้าเพียง 25 สตางค์ต่อกิโลเมตร พร้อมเทคโนโลยีจาก ETRAN ได้แก่ ETRAN BattSwap สลับแบตเตอรี่ใหม่ไฟเต็มแทนแบตเตอรี่ที่ใช้งานแล้ว มีความรวดเร็วสามารถสลับเปลี่ยนได้ภายในหนึ่งนาทีที่สถานีชาร์จของ ETRAN มีการควบคุมความปลอดภัยของอุปกรณ์และระบบไฟฟ้า รวมถึงมีระบบควบคุมด้วยการยืนยันตัวตนของคนขับก่อนที่จะทำการสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกครั้ง และ ETRAN Mobility Integration Solution ด้วยการใช้เซนเซอร์ เพื่อตรวจจับและอ่านค่าชิ้นส่วนต่าง ๆ ของตัวรถ ประกอบกับอุปกรณ์ Internet of Things (ฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต) ที่เข้ามาเชื่อมโยงและจัดระเบียบข้อมูลของเซนเซอร์ เพื่อส่งต่อให้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน ที่อยู่กับตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ขับขี่สามารถรู้ถึงความเร็ว ปริมาณแบตเตอรี่ การแจ้งเตือนการขับขี่เกินกำหนด ระบบจ่ายเงินที่สะดวกทั้งเงินสดและระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบตรวจสอบเส้นทางการวิ่งทั้งหมดเพื่อเฝ้าระวังการขับขี่ที่ผิดกฎหมายและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน มีระบบระบุตัวตนของคนขับระบุในขั้นตอนการใช้งานและเปลี่ยนแบตเตอรี่ ข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมจากการใช้งานต่าง ๆ เฉพาะในส่วนที่ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจะถูกนำไปใช้ในการวิเคราะห์การจราจร รูปแบบการเดินทาง ความถี่ในการใช้งาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในรูปแบบของ Big Data Analysis (การวิเคราะห์ข้อมูล)

ในด้านราคา อีทรานได้ทำการสำรวจกลุ่มเป้าหมายผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ จำนวนกว่า 400 คน และผู้โดยสารที่ใช้งานเป็นประจำ ในช่วงเวลา ระหว่างปี 2558 – 2559 เพื่อให้ทราบถึง Pain Point ที่แท้จริงในด้านต่าง ๆ ของกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อนำมาพัฒนาสินค้า บริการ รวมถึงราคาเข้าถึงได้ พบว่า วินมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ ระบุว่าเติมให้เต็มถังวันละครั้ง ซึ่งคำนวณเป็นค่าน้ำมันเฉลี่ย 3,000 บาทขึ้นไป ต่อเดือน โดยบางรายระบุว่าใช้ค่าน้ำมันสูงถึง 7,000 บาท ต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถอยู่ที่ประมาณ 200 บาทต่อเดือน ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้กลุ่มวินฯ สนใจอยากหันมาใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า คือ ราคา ต้องถูกกว่ารถที่ใช้น้ำมัน จุดชาร์จไฟต้องสะดวก นอกเหนือจากปัจจัยหลัก ๆ ในการตัดสินใจเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์ในอันดับแรก คือ ประสิทธิภาพ ต้องเร่งได้ทันใจ ขับขี่ในเมืองสะดวก อันดับรองลงมาคือ การออกแบบ ต้องสวย สะดุดตา และมีราคาที่สามารถจับต้องได้ จากข้อมูลดังกล่าว ETRAN PROM จึงมีราคาเช่าเริ่มต้นที่ 3,500 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นราคาที่รวมค่าชาร์จไฟแล้ว

นายสรณัญช์ กล่าวปิดท้ายว่า “อีทราน เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่แตกต่างและใหม่ในตลาด ที่ไม่ใช่แอปพลิเคชัน แต่เป็น Hardware เราก้าวเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ ด้วยโมเดลทางธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่ฉีกจากตลาดเดิมที่มีอยู่ อีทรานไม่ใช่บริษัทผลิตรถ แต่เราเป็นผู้นำนวัตกรรมบริการเพื่อการขนส่งสาธารณะทุกรูปแบบ ที่พร้อมนำขีดความสามารถและพลังความคิด บวกกับความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง มาผสานเข้ากับเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาและยกระดับบริการขนส่งสาธารณะเพื่อคนไทยให้ดียิ่งขึ้นไป วันนี้ เราเริ่มต้นจากสิ่งที่ใกล้ตัวผู้บริโภคอย่างวินมอเตอร์ไซค์ในกรุงเทพฯ ก่อน และในอนาคต จะขยายผลจาก 2 ล้อ ไปเป็น 4 ล้อ 6 ล้อ หรือไม่มีล้อ อย่างเช่นเรือต่อไป เราตั้งใจสร้างธุรกิจนี้อย่างจริงจัง คิดและลงมือทำให้เกิดผลสำเร็จขึ้นจริง โดยตั้งเป้าการเติบโตในระยะยาว ภายใต้แนวคิด “drive a better world” ด้วยเจตนารมย์ที่จะสร้างระบบขนส่งสาธารณะที่ยั่งยืนและยังประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย”

Visitors: 1,485,659