Hyundai H-1 & Grand Starex 2016 หรูหรา ออพชั่นจัดเต็ม
ฮุนได เอช-วัน (Hyundai H-1) และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ (Grand Starex) ได้รับการปรับโฉมใหม่ นับเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับรถกลุ่ม Premium MPV ที่สามารถตอบรับทุกการใช้งาน พร้อมสรรพด้วยเทคโนโลยีใหม่ เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร นับเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับรถกลุ่มนี้อย่างแท้จริง
การออกแบบภายนอก
ฮุนได เอช-วัน (Hyundai H-1) ได้รับการปรับโฉมด้านหน้า เพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับตัวรถ สะท้อนถึงความพรีเมียม โดยมีปรับเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่เป็นแบบแนวตั้ง, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) พร้อมสวิตซ์สำหรับปิด-เปิด และหรูหรามากขึ้น ด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว สี hyper silver สำหรับรุ่น H-1 Touring ได้มีการปรับโฉมด้านหน้าด้วยการใช้กระจังหน้าแบบแนวนอน 2 ชั้น พร้อมกระจังหน้าและไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ ทำให้ภาพลักษณ์ของรถ มีความสง่างามกว่าเดิม
สำหรับ ฮุนได แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ (Grand Starex) ได้มีการปรับโฉมด้านหน้าเช่นกัน ด้วยการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่แบบโคมเมียมแนวตั้ง, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) พร้อมสวิตซ์สำหรับปิด-เปิด และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ 17 นิ้ว สี Hyper Silver ทั้งหมดนี้ ทำให้ ฮุนได แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ มีความหรูหราและสง่างามกว่าที่เคย
การออกแบบภายใน
ฮุนได เอช-วัน (Hyundai H-1) และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ (Grand Starex) ยังได้รับการออกแบบอุปกรณ์ภายในใหม่ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และหรูหรามากขึ้น ได้แก่
- คอนโซลกลางออกแบบใหม่ ได้รับการปรับโฉมให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ในทุกรุ่น
- เบาะนั่งภายในห้องโดยสารด้านหลัง, พนักพิงศีรษะ และที่เท้าแขนดีไซน์ใหม่ (เฉพาะรุ่น H-1 Elite, Deluxe และ Grand Starex) และออกแบบที่วางเท้าใหม่ เพื่อความสบายขณะโดยสาร (เฉพาะรุ่น Grand Starex)
- VIP Counter พร้อม Ambient Light สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 สี เพิ่มความหรูหราในห้องโดยสาร และยังมี USB Port สำหรับชาร์จไฟ (เฉพาะรุ่น Grand Starex VIP)
- ลายไม้แบบใหม่ภายในห้องโดยสาร บริเวณคอนโซลด้านหน้า แผงประตูด้านหน้า แผงสวิตซ์กระจก และพวงมาลัย เพิ่มความหรูหราเหนือระดับ (เฉพาะรุ่น H-1 Deluxe และ Grand Starex)
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ฮุนได เอช-วัน ใหม่ รุ่นดีลักซ์ และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ยังได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความสะดวกสำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ได้แก่
- หน้าปัดเรืองแสงใหม่ พร้อมไฟส่องสว่างสีขาว และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (trip computer) เพื่อความสะดวกในการขับขี่มากยิ่งขึ้น (เฉพาะรุ่น H-1 Elite, Deluxe และ Grand Starex)
- ระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศดีไซน์ใหม่ ทั้งระบบธรรมดา (ในรุ่น H-1 Touring และ Elite) และระบบอัตโนมัติ เพิ่มความทันสมัย และระบบความสะดวกในการใช้งาน (เฉพาะรุ่น H-1 Deluxe และ Grand Starex)
- ระบบเครื่องเสียงพร้อมหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 8 นิ้ว ใหม่ ที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อความบันเทิงได้ เช่น USB / iPod, ระบบ Bluetooth สำหรับโทรศัพท์มือถือ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และยังสามารถใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wifi ได้ (เฉพาะรุ่น H-1 Deluxe และ Grand Starex)
- หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อระบบ HDMI ได้ สำหรับห้องโดยสารตอนหลัง เพื่อความบันเทิงขณะเดินทาง (เฉพาะรุ่น H-1 Deluxe และ Grand Starex Premium)
- พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, โทรศัพท์ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกขณะขับขี่ (เฉพาะรุ่น H-1 Deluxe และ Grand Starex)
- ประตูเลื่อนแบบไฟฟ้า พร้อมสวิตซ์ควบคุมการเปิดปิดประตูบริเวณที่นั่งคนขับ และรีโมทคอนโทรลสำหรับเปิดปิดประตู เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น (เฉพาะรุ่น H-1 Deluxe และ Grand Starex)
ระบบความปลอดภัย
- ไฟส่องสว่างบริเวณใต้กระจกมองข้าง ทำงานหลังจากปลดล็อกรถโดยอัตโนมัติ และดับเครื่องยนต์ เพื่อความปลอดภัยในยามค่ำคืน (เฉพาะรุ่น H-1 Deluxe และ Grand Starex)
- ครั้งแรก ในรถระดับเดียวกัน กับ Smart View Monitor กล้องมองรอบทิศทางขณะถอยจอด จะแสดงภาพแบบ 360 องศา โดยภาพจากกล้องทั้ง 4 ตัวที่ติดตั้งบริเวณกระจังหน้า ใต้กระจกมองข้างด้านซ้ายและด้านขวา และบริเวณป้ายทะเบียนด้านหลัง จะแสดงบนหน้าจอบนคอนโซลกลางขณะถอยหลัง เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการถอยจอด โดยเฉพาะบริเวณที่มีพื้นที่แคบ (เฉพาะรุ่น H-1 Deluxe และ Grand Starex)
- ระบบควบคุมการทรงตัว (ESP : Electronic Stability Control) ระบบจะช่วยควบคุมการทรงตัวของรถขณะมีการหักหลบกะทันหัน เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น (เฉพาะรุ่น Grand Starex)
- ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน, ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ McPherson Strut ด้านหลังแบบ 5-Link Rigid Axle ที่ให้การยึดเกาะถนนที่ดี และนุ่มนวลในเวลเดียวกัน
- โครงสร้างตัวถัง High Tensile Strength Steel ออกแบบในลักษณะ Four Ring ที่มีความแข็งแรงสูง ปลอดภัยและมั่นใจในทุกการเดินทาง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ช่วยปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารขณะเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งฮุนได เอช-วัน (Hyundai H-1) และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ (Grand Starex) ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว CRDi พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGT อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบ Sequential shift ที่ให้กำลังที่แรงทันใจ และประหยัดน้ำมันในเวลาเดียวกัน พร้อมรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร ทำให้ขับขี่ได้อย่างคล่องตัว
ฮุนได เอช-วัน ใหม่ (Hyundai H-1) มีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น Touring, Elite และ Deluxe พร้อมสีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีไฮเปอร์ เมทัลลิก, สีดำ ไทม์เลส แบล็ก และสีใหม่ สีน้ำตาล แทน บราวน์ ราคาจำหน่ายเริ่มต้น ที่ 1,289,000 บาท
ฮุนได แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ใหม่ (Grand Starex) มีจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น VIP และ Premium พร้อมสีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว อาร์ติก ไวท์, สีไฮเปอร์ เมทัลลิก, สีดำ ไทม์เลส แบล็ก และสีน้ำตาล ซาฮาร่า บรอนซ์ ราคาจำหน่ายเริ่มต้น ที่ 2,349,000 บาท
สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.hyundai-motor.co.th และ ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์ฮุนได 25 แห่ง ทั่วประเทศ
